(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับฐานช่วงสั้นคาด Fund Flow ชะลอหลังตปท.เล็งลดใช้นโยบายผ่อนคลายการเงิน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 29, 2017 09:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะยังมีความผันผวน แม้ภาพรวมจากปัจจัยภายในประเทศจะเป็นบวก ทั้งเรื่องที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รับหลักการของร่างกฎหมายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือร่างกฎหมาย EEC แล้ว ,ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่มีแนวโน้มที่ดี ทำให้หลายฝ่ายมีการปรับคาดการณ์ GDP ในปีนี้เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ด้านปัจจัยต่างประเทศยังเป็นประเด็นที่สร้างความกังวลให้กับตลาด ทั้งในส่วนของสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลี และแนวโน้มที่ทั่วโลกจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินลดลงก็จะกดดันให้ Fund Flow ชะลอการลงทุนชั่วคราว โดยเมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติก็มียอดขายสุทธิออกมาค่อนข้างมาก ประกอบกับตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นมาค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา ก็อาจจะทำให้เกิดการปรับฐานได้ในระยะสั้น ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคเช้านี้มีทั้งบวกและลบสลับกันเคลื่อนไหวไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก

พร้อมให้แนวรับ 1,660 จุด และแนวต้านที่ 1,680 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (28 ก.ย.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,381.20 จุด เพิ่มขึ้น 40.49 จุด (+0.18%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,453.45 จุด เพิ่มขึ้น 0.19 จุด (+0.00%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,510.06 จุด เพิ่มขึ้น 3.02 จุด (+0.12%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 47.77 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.67 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 70.53 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 23.24 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.52 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 4.42 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.19 จุด ,ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 4.46 จุด และดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 14.03 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (28 ก.ย.60) 1,666.36 จุด ลดลง 3.91 จุด (-0.23%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,839.67 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 ก.ย.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (28 ก.ย.60) ปิดที่ระดับ 51.56 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 58 เซนต์ หรือ 1.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (28 ก.ย.60) ที่ 7.98 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.36/38 แนวโน้มแกว่งแคบในกรอบ 33.30-33.40 ตลาดรอปัจจัยใหม่
  • สศค.มองเศรษฐกิจไทยปีนี้มีโอกาสโตได้ถึง 3.8% ตามคาดการณ์ใหม่แบงก์ชาติที่ระบุเติบโตตามแรงผลักดันจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาคส่งออก ส่วนเศรษฐกิจเดือน ส.ค.60 ฟื้นต่อเนื่อง ส่งผลดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคด้านเศรษฐกิจโดยรวมขยับขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เช่นเดียวกับปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศขยายตัว 6.1% สูงสุดในรอบ 17 เดือน ด้านส่งออกยังคงขยายตัว 13.2% โตต่อเนื่อง 6 เดือนติดต่อกัน และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมสูงขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน
  • ธนาคารกสิกรไทย ระบุว่าแนวโน้มการส่งออกที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ค่อนข้างมาก จาก 3.8% อาจจะโตได้ถึง 7% มีความเป็นไปได้ที่จะปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตเศรษฐกิจจากเดิม 3.4% เพราะส่งออกมูลค่าถึง 70% ของจีดีพี แต่ภาคการลงทุนและบริโภคเอกชนยังเปราะบางเนื่องจากหนี้ครัวเรือนสูงและขาดความเชื่อมั่นในการลงทุนถือเป็นปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจไทย ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์ คาด กนง.จะตรึงดอกเบี้ย 1.5% ถึงสิ้นปี 61 และคาดค่าเงินบาทที่ 33.5-34 บาท/ดอลลาร์
  • ธปท.เตือนภาคธุรกิจรับมือตลาดเงินผันผวนยากคาดเดา แนะผู้ประกอบการปิดความเสี่ยง จับมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรการช่วย"เอสเอ็มอี"เฮดจิ้งค่าเงินให้สิทธิล็อกอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าฟรี วงเงิน 3 หมื่นบาทต่อราย คาดช่วยเอสเอ็มอีได้กว่า 1.7 หมื่นราย
  • ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 รัฐบาลมีรายได้ 2.08 ล้านล้านบาท ในขณะที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ 2.67 ล้านล้านบาท รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 4.62 แสนล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน ส.ค.60 มี จำนวน 3.15 แสนล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.2 หมื่นล้านบาท สะท้อนฐานะการคลังเข้มแข็งและพอเพียงสำหรับดำเนินนโยบายการคลังเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงต่อไป
  • ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเอกฉันท์ 175 คะแนน รับหลักการร่าง พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. ... ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ และตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ 30 คน พิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน ก่อนส่งกลับให้ สนช.ลงมติอีกครั้ง
*หุ้นเด่นวันนี้
  • BEAUTY (ธนชาต) แนะ"ซื้อ"เป้า 19 บาท มองกำไร Q3/60 ทำจุดสูงสุดใหม่เติบโตทั้ง y-y และ q-q ที่ 299 ล้านบาท ปรับกำไรทั้งปีขึ้นเป็น 1.08 พันล้านบาท +65% y-y และเติบโตต่อเนื่อง 35% y-y ในปี 61 มองราคาปัจจุบันยังไม่สะท้อนการเติบโตแข็งแกร่งจากธุรกิจในต่างประเทศเต็มที่ ทางเทคนิคทำจุดสูงสุดใหม่ และมีเป้าหมายระยะสั้นที่ 16.60 บาท
  • ZIGA (เออีซี) ให้ราคาเป้าหมาย 9 บาท ช่วง Q3/60 คาดกำไรโตทั้ง QoQ และ YoY จากดีมานด์เหล็ก Pre-Zinc ที่ขยายตัวดีหลังราคาเหล็กในประเทศสูงขึ้นบวกกับมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าที่เลื่อนมาจากช่วง Q2/60 ส่วนช่วง Q4/60 คาดโตต่อเนื่อง QoQ หลังมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ Super Ziga ซึ่งมีมาร์จิ้นสูงหนุนให้ทั้งปี 60 คาดมีกำไรสุทธิ 291 ล้านบาท โต 28.8%YoY + มี Upside 31.4%
  • ITEL (ฟินันเซีย ไซรัส) ราคาเป้าหมาย 7.20 บาท มองการเซ็นสัญญาเน็ตชายขอบเฟส 1 พื้นที่ภาคกลางและใต้ มูลค่า 1.8 พันล้านบาทอย่างเป็นทางการหนุน Backlog เพิ่มเป็น 3.1 พันล้านบาท คาดว่าจะเริ่มประมูลเฟส 2 ใน Q1/61 เพื่อให้ประเทศไทยได้ใช้บอร์ดแบนด์ 100% สิ้นปี 61 ตามนโยบายของกระทรวงดีอี ถ้าได้งานเพิ่มจะเป็น Upside เพิ่มต่อประมาณการ ที่คาดกำไรสุทธิปีนี้ +96% Y-Y และ +56% Y-Y ในปีหน้า ส่วนกำไร Q3/60 คาด +28% Q-Q อยู่ที่ 32 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ