บมจ.ช ทวี (CHO) ผู้ติดตั้งระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket) ในรถโดยสารขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ตั้งเป้าหมายติดตั้งระบบ E-Ticket ครบทั้งจำนวน 2,600 คันภายในเดือนมี.ค.61 หรือไตรมาส 1/61 จากที่ TOR กำหนดไว้ภายใน 10 มิ.ย.61 เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกรวดเร็วในการเดินทางมากขึ้นและครอบคลุมพื้นที่ให้บริการมากขึ้น โดย CHO จะเริ่มรับรู้รายได้ค่าเช่าตั้งแต่ไตรมาส 2/61 เป็นต้นไป ระยะเวลา 5 ปี
ล่าสุด CHO ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องอ่านบัตรไปแล้วจำนวน 200 คัน และจะทยอยติดตั้งจนครบ 800 คัน ภายในวันที่ 15 พ.ย. 60 เพื่อรองรับการใช้บัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยของกระทรวงการคลัง
ส่วนเครื่องเก็บเงินสดค่าโดยสาร(Cash box) ล็อตแรก จำนวน 100 คัน CHO จะทยอยติดตั้งและส่งมอบตาม TOR ภายในวันที่ 14 ต.ค.นี้ และส่งมอบงานล็อตที่ 2 จำนวน 700 คัน ภายใน 13 ธ.ค. และล็อตที่ 3 จำนวน 1,800 คัน ภายใน 10 มิ.ย.61
นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHO เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดรายได้ปี 61 จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด หลังจากบริษัทฯได้รับงานติดตั้งระบบ E-Ticket ของขสมก.) มูลค่า 1,665 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ในเดือน เม.ย. ปี 61 เฉลี่ยราว 27 ล้านบาทต่อเดือน
ขณะที่ปีนี้บริษัทฯยังคงมั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,079 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทฯมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) 2,700 ล้านบาท โดยจะสามารถรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ราว 800-900 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ใน 5 ปี ต่อจากนี้ ในขณะเดียวกันบริษัทฯเตรียมที่จะเซ็นสัญญางานรถ catering ของ บมจ. การบินไทย (THAI) มูลค่า 170 ล้านบาท ในต้นเดือน ต.ค.
ส่วนงานประมูลรถ NGV ของ ขสมก. จำนวน 489 คัน ที่มีการปรับลดราคากลางลงมาอยู่ที่ 4,000 ล้านบาท คาดว่าจะมีการเปิดซองประมูล ต.ค. นี้ โดยคาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปในช่วงปลายปีนี้
นอกจากนี้บริษัทฯยังอยู่ระหว่างเข้าประมูลงานใหม่ มูลค่ารวมราว 4,400 ล้านบาท ที่จะทยอยออกมาอยางต่อเนื่อง โดยในเดือน ต.ค. คาดว่าจะมีงานซ่อมบำรุงของกองทัพบก มูลค่า 300 ล้านบาท ซึ่งต้องรอความชัดเจนงบประมาณปี 61 ก่อนจึงจะรู้ช่วงเวลาการประมูล