ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,673.16 จุด เพิ่มขึ้น 6.80 จุด (+0.41%) มูลค่าการซื้อขาย 57,037.24 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,676.48 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,664.43 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 757 หลักทรัพย์ ลดลง 515 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 412 หลักทรัพย์
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ค่อนข้างผันผวน โดยแกว่งตัวในแดนลบช่วงต้นภาคเช้าและเริ่มพลิกกลับมาแกว่งตัวในแดนบวก โดยเพาะในช่วงบ่ายที่ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน มองว่าเป็นไปตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย แม้ว่าจะยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาส่งผลหนุนดัชนีอย่างมีนัยสำคัญ
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้ามองว่าการปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีคงเป็นไปอย่างจำกัด และมีโอกาสแกว่งตัวลงมากกว่า และมองว่ามูลค่าการซื้อขายในสัปดาห์จะค่อนข้างเบาบาง เพราะมีตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียหลายประเทศที่ปิดทำการในช่วงวันหยุดเทศกาล เช่น จีน ฮ่องกง และเกาหลี เป็นต้น
สัปดาห์หน้ามีปัจจัยที่ต้องติดตามมองว่าเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นไทยได้ คือ การเริ่มอ่อนค่าของค่าเงินบาท หลังจากที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้น เพราะการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณมาตรการลดขนาดสินทรัพย์ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยช่วงปลายปีนี้ที่มีโอกาสสูงขึ้น ส่งผลนักลงทุนต่างชาติเริ่มปรับพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยง และอาจมีผลต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุนออกจากตลาดหุ้นไทย
พร้อมให้แนวต้าน 1,680 จุด แนวรับ 1,650 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
ESSO มูลค่าการซื้อขาย 2,465.71 ล้านบาท ปิดที่ 13.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.30 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,291.89 ล้านบาท ปิดที่ 408.00 บาท ลดลง 6.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,107.29 ล้านบาท ปิดที่ 66.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,578.70 ล้านบาท ปิดที่ 59.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,468.49 ล้านบาท ปิดที่ 191.00 บาท ลดลง 2.50 บาท