WPH ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 4.28 บาท สูงกว่าราคาขาย IPO 9.74%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 3, 2017 12:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น WPH ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 4.28 บาท เพิ่มขึ้น 0.38 บาท (+9.74%) จากราคาอ้างอิง 3.90 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 972.49 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 4.30 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 4.48 บาท และราคาลงต่ำสุด 4.22 บาท

นายเชน เหล่าสุนทร รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลฝ่ายการเงิน บมจ.โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง (WPH) เปิดเผยว่า ค่อนข้างพอใจในการเปิดซื้อขายเป็นวันแรก โดยมองว่าราคาที่ไม่ร้อนแรงจนเกินไปเป็นเรื่องปกติ โดยมองว่าการลงทุนหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลจะต้องเป็นการลงทุนระยะยาวเป็นหลัก

บริษัทฯยอมรับกำไรสุทธิปีนี้จะต่ำกว่าปีก่อนที่ 72 ล้านบาท และคาดว่ารายได้จะทรงตัวจากปีก่อนที่ 542 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากในช่วงปลายปีก่อนภาคใต้ประสบปัญหาน้ำท่วมใหญ่ทำให้ประชาชนใช้เงินการซ่อมแซมบ้าน และโรงพยาบาลมีค่าใช้จ่ายในการเตรียมความพร้อมด้านบุลลากรรองรับโรงพยาบาลแห่งใหม่ คือ วัฒนแพทย์ อ่าวนาง จังหวัดกระบี่ จำนวน 59 เตียง ที่คาดว่าจะก่อสร้างแล้วในไตรมาส 4/61

อย่างไรก็ตาม มองว่าในช่วงไตรมาส 4/60 จะกลับมาเติบโตได้ค่อนข้างมาก เนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลการท่องเที่ยว ซึ่งจะทำให้ลูกค้าชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการมากขึ้น ในขณะที่เศรษฐกิจในประเทศมีการฟื้นตัวทำให้ประชาชนเข้ามาใช้บริการในโรงพยาบาลมากขึ้น

"เรามองว่าผลประกอบการในปีนี้อาจจะไม่ได้เติบโตกว่าปีที่ผ่านมาด้วยสถานการ์หลายๆอย่างทั้งเรื่องน้ำท่วมที่เป็นผลกระทบมาถึงปีนี้ และราคาพืชผลทางการเกษตรไม่ดีทำให้ประชาชนลดค่าใช้จ่ายแล้วไปใช้บริการโรงพยาบาลรัฐ ประกอบกับเรามีการเตรียมบุคลากรเพื่อรองรับการเปิดโรงพยาบาลแห่งใหม่ด้วย แต่เราเชื่อว่าผลประกอบการไตรมาส 4/60 จะกลับมาเติบโตแล้ว"นายเชน กล่าว

สำหรับทิศทางรายได้ในปี 61 คาดว่าจะสามารถเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 15% โดยจะเป็นการเติบโตในกลุ่มโรคเฉพาะทางที่บริษัทฯได้มีการขยายเพิ่มเติม ทั้งอายุรกรรมประสาทและสมอง และอายุรกรรมทางเดินอาหาร เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆเพิ่มเติมด้วย

นอกจากนี้ บริษัทฯคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จาก โรงพยาบาลวัฒนาแพทย์ อ่าวนาง ในช่วงไตรมาส 4/61 โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นกำไรทันทีในปี 62 โดยโรงพยาบาลแห่งนี้บริษัทฯจะเน้นการให้บริการกับชาวต่างชาติเป็นหลักที่สามารถสร้างมาร์จิ้นได้ค่อนข้างสูง ซึ่งจะผลักดันให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 15-17% จากปีก่อนอยู่ที่ 14%

"ผลประกอบการของเราจะเริ่มเห็นการเติบโตได้ในระดับปกติก็คงเป็นปีหน้า และในปี 62 ก็จะเติบโตขึ้นอีกมาก เพราะโรงพยาบาลใหม่เริ่มรับรู้เข้ามาเต็มที่ ซึ่งจะเน้นในกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่ให้มาร์จิ้นสูง โดยที่ผ่านมาบริษัทฯมีสัดส่วนรายได้จากลูกค้าชาวต่างชาติอยู่ 16% ซึ่งมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง"นายเชน กล่าว

ด้านนายพายุพัด มหาผล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.ธนชาต เปิดเผยว่า พอใจกับการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นในวันนี้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากภาวะตลาดที่ค่อนข้างดี ประกอบกับการลงทุนในหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลจะต้องเป็นการลงทุนระยะยาว เนื่องจากปัจจุบันทั่วโลกเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และมีการทำประกันสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลต่อหัวในอนาคตจะสูงขึ้นตามไปด้วย

ทั้งนี้ ด้วยสถานการณ์ที่แนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรม Health care ที่มีทิศทางการเติบโตอีกมากทางธนชาตจึงเน้นการการผลักดันกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนี้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยคาดว่าปี 61 จะมีอีกอย่างน้อย 1 ดีล

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ