(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ผันผวนในกรอบไร้ปัจจัยใหม่หนุน,รอตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯคืนนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 6, 2017 09:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะผันผวนในกรอบ เนื่องจากตลาดฯไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา โดยนักลงทุนคงจะหมุนเวียนเล่นหุ้นกัน ทำให้ดัชนีฯคงจะยังไม่ถึง 1,700 จุดในช่วงนี้ นอกจากนี้ยังรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันนี้ด้วย

ส่วนสัปดาห์หน้าก็ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/60 ของกลุ่มแบงก์ ที่จะเริ่มออกมากันแล้ว ทำให้อาจมีแรงเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มแบงก์เข้ามา ขณะที่นักลงทุนยังรอดูด้วยว่าหนี้ที่ไม่ก่อใหิ้เกิดรายได้ (NPL) จะสูงขึ้นหรือไม่

ทางเทคนิคแสดงให้เห็นว่าดัชนีฯช่วงนี้ยังพักตัว แต่แนวโน้มหลักยังเป็นขาขึ้นอยู่ พร้อมให้แนวรับ 1,685-1,680 จุด ส่วนแนวต้าน 1,695-1,700 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (5 ต.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,775.39 จุด พุ่งขึ้น 113.75 จุด (+0.50%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,585.36 จุด เพิ่มขึ้น 50.73 จุด (+0.78%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,552.07 จุด เพิ่มขึ้น 14.33 จุด (+0.56%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 88.29 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 247.23 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 19.94 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 5.96 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.07 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 38.55 จุด

ส่วนตลาดหุ้นจีน ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันชาติ, ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (5 ต.ค.60) 1,690.87 จุด เพิ่มขึ้น 3.10 จุด (+0.18%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 911.78 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 ต.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (5 ต.ค.60) ปิดที่ระดับ 50.79 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 81 เซนต์ หรือ 1.6%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (5 ต.ค.60) ที่ 7.90 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.41 อ่อนค่าจากวานนี้ หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯหนุนดอลล์แข็ง
  • "แบงก์ชาติ-สภาพัฒน์"มองความท้าทายเศรษฐกิจในอนาคตโจทย์ใหญ่อยู่ที่ปัญหาความเหลื่อมล้ำ-เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ แนะเอกชนเร่งปรับตัวรับมือ
  • ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงงานเทศกาลถือศีลกินเจระหว่างวันที่ 20-28 ต.ค.นี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวคนไทยและชาวต่างชาติเชื้อสายจีน อย่างประเทศจีน มาเลเซีย สิงคโปร์ เดินทางประมาณ 2.4 แสนคน สร้างรายได้หมุนเวียนให้กับจังหวัด 7,400 ล้านบาท
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจไทยปี 2560 โดยปรับเป้าหมายจีดีพีเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 3.7% จากกรอบประมาณการ 3.5-4.0% และจากประมาณการเดิมที่ 3.8% รวมถึง การส่งออกเพิ่มเป็น 7% จากเดิมที่ 5% การบริโภคภาคเอกชนเพิ่มเป็น 3% จากเดิม 2.7% การลงทุน ภาคเอกชนเพิ่มเป็น 1.5% และปรับลดประมาณการลงทุนภาครัฐเหลือ 5% จากเดิม 8.5% จากครึ่งปีแรกที่จีดีพีขยายตัวได้ 3.5% สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมาจากภาคต่างประเทศเกือบทั้งหมดได้แก่ การส่งออกและการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ดี ขณะที่การบริโภคเอกชนฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยตามราคาสินค้าเกษตร
  • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ย.ปรับตัวดีขึ้นแตะ 75 จับตาราคาพืชผลการเกษตรยังตกต่ำหวั่นฉุดกำลังซื้อ แนะรัฐอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นภูมิภาค ด้านศูนย์วิจัยกสิกรปรับจีดีพีปีนี้เป็น 3.7% หลังส่งออกและการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวช่วยหนุน คลังเร่งดันเศรษฐกิจระดับจังหวัดหนุนภาพรวมโตฉลุย
  • รถไฟไทย-จีนเลื่อนตอกเสาเข็มอย่างไม่มีกำหนด หลังอีไอเอไม่ผ่านเกณฑ์ ด้าน รฟท.เร่งเดินหน้ารถไฟทางคู่ 5 เส้น มั่นใจภายในเดือน ธ.ค.60 ได้ก่อสร้างแน่

*หุ้นเด่นวันนี้

  • TU (ธนชาต) "ซื้อ" เป้า 24 บาท ราคาทูน่าที่ปรับสูงขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่จะกดดันอัตรากำไรของธุรกิจทูน่า ขณะที่ธุรกิจกุ้ง แซลม่อน และอาหารสัตว์ฟื้นตัวขึ้น
  • KKP (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 79 บาท น่าจะมี Upside surprise จากคาดการณ์กำไร 3Q60 ที่ 1,583 ลบ. +34% Q-Q แต่ -6% Y-Y จากรายได้ตลาดทุนที่ดีขึ้น, การขาย NPA, และค่าใช้จ่ายพิเศษที่ไม่มีเหมือน Q2/60 แม้คาดกำไรปีนี้โตเพียง 2% Y-Y แต่ลบล้างได้จากคาดการณ์ปันผลสูงสุดในกลุ่มราว 8.5% ต่อปี และ ROE ที่ 14.9% สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 11.6% นอกจากนี้ NVDR กลับมาเร่งซื้อหลังจากขายตลอดทางช่วง มิ.ย.-ส.ค. 60 โดยซื้อต่อเนื่องเป็นวันที่ 11 รวม 266 ลบ. ทำให้ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีเป็นซื้อ 1.1 พันลบ.
  • CPF (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 32 บาท คาดกำไรปกติ 3Q60 +37% Q-Q อยู่ที่ 2.9 พันลบ. จากขาดทุนหมูในเวียดนามที่ลดลง และเป็น High Season ของธุรกิจ แต่หากเทียบ Y-Y คาดลดลง 43% เพราะปีก่อนไม่มีปัญหา Oversupply หมูในเวียดนาม อย่างไรก็ตาม หากรวมกำไรขายเงินลงทุน คาดมีกำไรสุทธิ 4.7 พันลบ. (+16.6% Q-Q, -8.6% Y-Y) ส่วน Q4/60 อ่อนตัวลงตามฤดูกาล แต่คาดเห็นการฟื้นตัวธุรกิจหมูเวียดนามต่อเนื่อง และคาดดอกเบี้ยจ่ายลดลง จากการนำเงินเพิ่มทุนครึ่งหนึ่งไปลดหนี้ต่างประเทศ โดยคาดกำไรสุทธิปีนี้ทรงตัว Y-Y ก่อนจะกลับมาโต 8.5% Y-Y ในปีหน้า
  • MTLS (เออีซี) "ซื้อ"เป้า 46 บาท ช่วง Q3/60 คาดกำไรโตทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่ทั้งปี 60-61 คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ 45.4% หนุนด้วยพอร์ตสินเชื่อที่ขยายตัวดีตามความต้องการเงินด่วนที่มีอยู่มากและจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามเป้าปี 60 ที่ 2,200 สาขา เพื่อเพิ่มพื้นที่บริการให้ครอบคลุมมากขึ้นขณะที่ฐานะการเงินยังแกร่งมี D/E ratio 2.96x (เพดานการกู้อยู่ที่ 4x) และ Coverage Ratio สูงถึง 267% + Upside 26.9% จากพื้นฐานปี 61

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ