ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,695.97 จุด เพิ่มขึ้น 5.10 จุด (+0.30%) มูลค่าการซื้อขาย 59,495.36 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,701.12 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,693.79 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 595 หลักทรัพย์ ลดลง 683 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 436 หลักทรัพย์
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นตลอดทั้งวัน สอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างก็ปรับตัวขึ้น โดยได้แรงซื้อจากหุ้นในกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ซึ่งกลุ่มพลังงานขึ้นในวันนี้สามารถทำให้ดัชนี SET เพิ่มขึ้นได้ 4 จุด
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายณัฐชาต มองว่า ตลาดฯมีโอกาสผันผวนได้ โดยปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้าจะเป็นการเริ่มทยอยประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในงวดไตรมาส 3/60 โดยเริ่มที่กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งก็ต้องรอดูว่าจะออกมาดีหรือไม่ ซึ่งจากการทำ Preview ของนักวิเคราะห์เบื้องต้นพบว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์มีทั้งดีขึ้นและลดลงคละกัน
ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม คือ รายงงานผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) พร้อมกับติดตามเกี่ยวกับรายชื่อของประธานเฟดคนใหม่ ซึ่งความนิยมของนายเควิน วอร์ช มีค่อนข้างมาก เป็นบุคคลที่มีความคิดสุดโต่ง หากนายเควิน วอร์ช ได้รับการคัดเลือกเป็นประธานเฟด คาดว่าจะส่งผลต่อกระแสเงินทุนที่อาจจะชะลอการไหลเข้า และมีผลต่อค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง เพราะนโยบายของนายเควิน วอร์ช มีความต้องการให้ผลตอบแทนจากพันธบัตรสหรัฐฯเพิ่มขึ้น และทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น
พร้อมให้แนวต้าน 1,720 จุด แนวรับ 1,670 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PRM มูลค่าการซื้อขาย 2,317.45 ล้านบาท ปิดที่ 11.30 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 2,251.39 ล้านบาท ปิดที่ 82.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,017.52 ล้านบาท ปิดที่ 151.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,810.50 ล้านบาท ปิดที่ 26.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,730.60 ล้านบาท ปิดที่ 6.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท