ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,713.03 จุด ลดลง 1.11 จุด (-0.06%) มูลค่าการซื้อขาย 36,124.35 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ มาใกล้ช่วงท้ายตลาดภาคเช้าดัชนีฯได้พลิกกลับมาติดลบ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,719.60 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,709.70 จุด
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงใกล้ปิดเทรดภาคเช้าดัชนีฯได้ปรับตัวลงมา คาดว่าจะเป็นการขายทำกำไร เพื่อลดความร้อนแรงหุ้นในบางกลุ่มหลังจากปรับขึ้นไปทดสอบระดับ 1,720 จุด
ภาพตลาดส่วนใหญ่ในช่วงเช้าที่ผ่านมาจะปรับตัวขึ้นเล็กน้อยตามตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียบวกเกือบทั้งหมดราว 0.2-0.7% เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐฯมีทิศทางอ่อนค่า ภายหลังจากที่สัญญาณที่ได้จากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คงจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธ.ค.ปีนี้ แต่ระบุไม่จำเป็นต้องรีบปรับขึ้นเร็ว ทำให้เป็นบวกต่อตลาดเกิดใหม่
สำหรับบ้านเราจุดที่น่าสนใจมาจาก SET50 Index ที่ขึ้นทำ All time High เป็นกลุ่มที่ทำให้ตลาดฯปรับตัวขึ้นมาได้ โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน มอนกลุ่มแบงก์และวัสดุก่อสร้างที่น่าจะปรับขึ้นมาช่วยหนุนตลาดฯอีก ซึ่งวันนี้หุ้นในกลุ่มแบงก์ก็เป็นบวก และกลุ่มไฟแนนซ์ก็มาด้วย เป็นผลจากคาดการณ์ผลประกอบการงวดไตรมาส 3/60 จะดีต่อเนื่อง แต่กลุ่มไฟแนนซ์ต้องระวังแม้งบฯจะเติบโตดี แต่ Valuation ก็สูง ติดตามการทยอยประกาศงบฯกลุ่มแบงก์ในงวดไตรมาส 3/60 ซึ่ง TISCO ออกมาดี และคาดว่าหุ้นในกลุ่มแบงก์ขนาดกลาง-เล็กน่าจะมีการเติบโตที่ดีกว่าแบงก์ขนาดใหญ่
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายกิจพล กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัว ซึ่งก็ยังมองบวกอยู่ พร้อมให้แนวรับ 1,710-1,706 จุด ส่วนแนวต้าน 1,720 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,187.50 ล้านบาท ปิดที่ 424.00 บาท ลดลง 6.00 บาท
TOA มูลค่าการซื้อขาย 1,374.51 ล้านบาท ปิดที่ 31.50 บาท ลดลง 1.25 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,313.84 ล้านบาท ปิดที่ 92.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
ESSO มูลค่าการซื้อขาย 1,205.95 ล้านบาท ปิดที่ 14.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท
PRM มูลค่าการซื้อขาย 1,054.60 ล้านบาท ปิดที่ 12.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท