(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์-ชะลอลงทุนช่วงงานพระราชพิธีฯ แนะติดตามปัจจัยตปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 24, 2017 09:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ เนื่องจากปัจจัยในประเทศที่มีวันหยุดหลายวัน และงานพระราชพิธีฯก็อาจทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนไปก่อน

อย่างไรก็ดี ต้องติดตามปัจจัยจากต่างประเทศ โดยวันนี้ติดตามตัวเลข PMI ภาคการผลิตของหลายประเทศทั่วโลก และในวันที่ 26 ต.ค.ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดว่าจะประกาศลดการทำ QE ส่วนวันที่ 27 ต.ค.ให้ติดตามตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) งวดไตรมาส 3/60 ของสหรัฐฯ

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบคละกันราว 0.1% มีเพียงตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่บวกได้ดี ภายหลังจากที่นายชินโซ อาเบะ ชนะการเลือกตั้ง

พร้อมให้แนวรับ 1,680-1,685 จุด ส่วนแนวต้าน 1,700 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (23 ต.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,273.96 จุด ลดลง 54.67 จุด (-0.23%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,564.98 จุด ลดลง 10.23 จุด (-0.40%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,586.83 จุด ลดลง 42.23 จุด (-0.64%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 26.65 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.10 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 73.26 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 14.69 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 0.74 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 1.35 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.97 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 2.71 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (20 ต.ค.60) 1,692.58 จุด เพิ่มขึ้น 9.15 จุด (+0.54%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,281.23 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 ต.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (23 ต.ค.60) ปิดที่ระดับ 51.90 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 6 เซนต์ หรือ 0.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (23 ต.ค.60) ที่ 7.34 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.18 คาดพักตัวในกรอบแคบ จับตามาตรการภาษีสหรัฐ-ประธานเฟดคนใหม่
  • ผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ภาพรวมดอกเบี้ยปีหน้ามีโอกาสปรับขึ้นอีก 0.25% ซึ่งต้องจับตาการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะกระทบต่อดอกเบี้ยนโยบายของไทย
  • คณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) รฟท. มีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลางานบริการที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างงานโยธา (CSC) สัญญาที่ 1 และสัญญาที่ 2 ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต จะขยายสัญญาออกไปอีก 800-1,000 วัน เพื่อให้สอดคล้องกับงานก่อสร้างที่จะแล้วเสร็จในปี 2563
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯประเมินบรรยากาศจับจ่ายใช้สอยถึงสิ้นปีสดใส อานิสงส์ส่งออก-ภาคท่องเที่ยว-ลงทุนช่วยผลักดัน ส.อ.ท.ต้านเปิดตลาดหมูให้สหรัฐ ระบุเกณฑ์โคเด็กซ์แค่กำหนดมาตรฐาน ไม่ได้บังคับต้องนำเข้า ข้ออ้างสารเร่งเนื้อแดงอันตรายมีข้อมูลรองรับ เชื่อมะกันฟ้ององค์การการค้าโลกไม่ง่าย
  • สมาชิกอาร์เซพนัดถกชี้ชะตาความตกลงสัปดาห์นี้ ย้ำต้องลดภาษีนำเข้าเป็น 0% ใน 15 ปี สำหรับสินค้า 92% ของทั้งหมดที่ค้าขายกันก่อนชง "ผู้นำ" 16 ประเทศ เห็นชอบเดือน พ.ย.นี้ ส่วนเรื่องอื่นๆทั้งเปิดเสรีบริการ-ลงทุน-แหล่งกำเนิดสินค้า แม้คืบหน้ามากแต่ยังตกลงไม่จบหลังแต่ละประเทศไม่ยอมยืดหยุ่น

*หุ้นเด่นวันนี้

  • TPCH (ธนชาต) "ซื้อ"เป้า 21 บาท ปรับลดประมาณการกำไรลง 22-35% สะท้อนต้นทุนที่สูงขึ้นจากการเลื่อนดำเนินงานโรงไฟฟ้าและมีส่วนแบ่งขาดทุนจากโครงการลงทุนใหม่ แต่ยังมอง TPCH เป็นหุ้นที่มีกำไรเติบโตสูง เฉลี่ยปี 2560-2563 ที่ 29 % และมองว่าตลาดรับรู้ปัจจัยลบไปแล้ว
  • SEAFCO (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้าปี 61 ที่ 19.30 บาท หรือ 9.65 บาทหลังแตกพาร์ 27 ต.ค. PE2561 อยู่ที่ 18.6 เท่า ยังต่ำกว่า PYLON ที่ 23 เท่า และกลุ่มรับเหมาที่ 20 เท่า โดยคาดกำไรสุทธิ 3Q60 ที่ 45 ลบ. +255% Y-Y +18% Q-Q จาก High Season และฐานที่ต่ำในปีก่อน ด้าน Backlog ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 2.6 พันลบ. มากสุดในตลาดฐานราก โดยมี Upside จากงานรอผลประมูลราว 1 หมื่นลบ. เช่น รถไฟฟ้าสีชมพู เหลือง ม่วงใต้, ทางด่วนพระราม3-ดาวคะนอง และ One Bangkok คาดกำไรสุทธิปี 2560-2561 โตเฉลี่ย 34% ต่อปี
  • BCH (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 19.50 บาท เป็นกลุ่มโรงพยาบาลที่ได้รับผลประโยชน์จากการปรับเพิ่มเงินค่าประกันตนของสำนักงานประกันสังคม (SSO) มากที่สุด การเติบโตของรายได้และกำไรมีเสถียรภาพจากทั้งโครงการ Greenfield 4 แห่งและจากการปรับเพิ่มค่าประกันตนของ SSO โดยมี CAGR ของกำไรสุทธิ 5 ปีที่ 11.4%, ยังคงครองส่วนแบ่งทางการตลาดของกลุ่มประกันสังคมสูงสุดที่ 6.7% ของจำนวนผู้ประกันตน โดยมีผู้ประกันตนในเครือถึง 805,000 คน พร้อมเดินหน้ายกระดับมาตรฐานโรงพยาบาลให้ก้าวสู่ HA III และปี 2560 ไข้หวัดใหญ่ระบาดนานกว่าปกติ หนุนยอดผู้ป่วยเข้ารับการรักษา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ