ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,724.93 จุด เพิ่มขึ้น 6.27 จุด (+0.36%) มูลค่าการซื้อขาย 26,631.78 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,726.22 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,720.40 จุด
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นการเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรหุ้นรายตัวที่มีแนวโน้มผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบสลับกัน อย่างไม่มีทิศทางที่ชัดเจน พร้อมให้ติดตามรายชื่อประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะออกมาในเร็ว ๆ นี้ และนโยบายการปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ ทั้ง 2 ปัจจัยถือเป็นปัจจัยบวก แต่อย่างไรก็ตามมองว่าตลาดรับรู้ปัจจัยนี้ไปมากแล้ว จึงให้ระมัดระวังหากออกมาจริงอาจจะเกิด Sell on fact ได้
ด้านนายศราวุธ เตโชชวลิต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น แต่ราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานปรับขึ้นไม่มากเนื่องจากได้ขึ้นแรงไปในช่วงก่อนหน้านี้แล้ว นอกจากนี้ยังได้แรงเก็งกำไรหุ้นรายตัวจากความคาดหวังผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในงวดไตรมาส 3/60 จะออกมาดี
ส่วนตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยให้ติดตามรายชื่อประธานเฟด คนใหม่ และผลประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ), ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯที่จะประกาศในวันศุกร์ที่จะถึงนี้
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายกิจพล คาดว่า ดัชนีฯมีโอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบ 1,730-1,750 จุดได้ ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,718 จุด
สำหรับนายศราวุธ คาดว่า ดัชนีฯอาจจะมีความผันผวน โดยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ เนื่องจากแรงซื้อยังไม่มากนัก พร้อมให้แนวรับ 1,715 จุด ส่วนแนวต้าน 1,727 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,245.82 ล้านบาท ปิดที่ 59.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
EA มูลค่าการซื้อขาย 1,190.36 ล้านบาท ปิดที่ 43.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,042.84 ล้านบาท ปิดที่ 223.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
TOA มูลค่าการซื้อขาย 595.97 ล้านบาท ปิดที่ 35.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
UV มูลค่าการซื้อขาย 566.42 ล้านบาท ปิดที่ 12.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท