"ดู เดย์ ดรีม" คาดเข้าเทรดช่วงต้นธ.ค.นี้ หลังก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่งแล้ว

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 14, 2017 12:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสราวุฒิ พรพัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ดู เดย์ ดรีม (DDD) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 76 ล้านหุ้นโดยมีบล. บัวหลวง เป็นที่ปรึกษาทางการเงินนั้น ล่าสุดสำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ บริษัทฯ จะกำหนดวันและราคาเสนอขายหุ้น IPO ต่อไป โดยคาดว่าจะเสนอขายหลักทรัพย์ และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยช่วงประมาณต้นเดือนธันวาคมนี้

ระหว่างนี้ บริษัทฯ จะจัดโรดโชว์สรุปข้อมูลการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ประมาณช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อสรุปไฮไลท์ของการลงทุนในหุ้น ‘DDD’ และแผนการเติบโตของบริษัทฯ รวมถึงแผนการเสนอขายหุ้นไอพีโอเพื่อระดมทุนต่อยอดความสำเร็จสู่ระดับภูมิภาค รวมไปถึงรายละเอียดการจองซื้อหุ้น

“ดู เดย์ ดรีม กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมระดมทุนเพื่อสนับสนุนการขยายธุรกิจ ทั้งการเพิ่มกำลังการผลิต การขยายช่องทางการจัดจำหน่าย และการปรับปรุงฝ่ายวิจัยและพัฒนา เพื่อตอบรับเทรนด์ดูแลความงามของผู้บริโภคทั่วเอเชียพร้อมมุ่งสู่การเป็นท็อป 3 บริษัทชั้นนำด้านความงามของเอเชีย โดยเรามีความมั่นใจในว่าการเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้จะเป็นที่สนใจของนักลงทุน เนื่องจากความแข็งแกร่งในด้านผลประกอบการ ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยม และเทรนด์การเติบโตในอุตสาหกรรมสกินแคร์ที่ได้รับการจัดอันดับจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยให้เป็น 1 ใน 10 อุตสาหกรรมดาวรุ่งในปี 2559 ตลอดจนกระแสการดูแลสุขภาพจากการก้าวเข้าสู่ Aging Society และสัญญาณทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง" นายสราวุฒิกล่าว

บมจ. ดู เดย์ ดรีม เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงผิวภายใต้เครื่องหมายการค้า NAMU LIFE โดยมีชื่อกลุ่มผลิตภัณฑ์ “SNAILWHITE" และหนึ่งในผู้นำในตลาดสกินแคร์ของไทย ซึ่งมียอดขายกว่า 1,200 ล้านบาทในปี 2559 โดยในครึ่งปีแรกของปี 2560 DDD มียอดขาย 872.4 ล้านบาท และและกำไร209.1 ล้านบาท จากการเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงการสร้างปรากฏการณ์ผ่านกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้บริโภคระดับ Premium Mass ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศจีน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ