SET ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,690.26 จุด ลดลง 12.37 จุด (-0.73%) มูลค่าการซื้อขาย 60,963.30 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลงตามตลาดต่างประเทศ จากราคาน้ำมันดิบร่วงลงแรงกดดันภาพรวมการลงทุน ประกอบกับตลาดหุ้นไทยดีดตัวขึ้นมาค่อนข้างแรงวานนี้ทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมา แต่ภาพรวมยังมี downside จำกัดจากมุมมองเศรษฐกิจเป็นบวก และการเพิ่มน้ำหนักลงทุนของ MSCI ปลายเดือนนี้ ตลอดจนคาดหวังเม็ดเงิน LTF-RMF ช่วยหนุนปลายปี คาดพรุ่งนี้ยังย่ำฐานต่อ ให้แนวรับ 1,690 และแนวต้านที่ 1,700 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,690.26 จุด ลดลง 12.37 จุด (-0.73%) มูลค่าการซื้อขาย 60,963.30 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,701.01 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,688.65 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 455 หลักทรัพย์ ลดลง 995 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 333 หลักทรัพย์
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยย่อตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก หลังราคาน้ำมันดิบร่วงลงแรงเกือบ 2% เมื่อวานนี้ ขณะที่ความกังวลต่อแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐตลาดรับรู้ไปบางส่วนแล้ว ประกอบกับตลาดหุ้นไทยดีดตัวขึ้นแรงเมื่อวานนี้ ก็ทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง
ขณะที่นักลงทุนยังคงเข้าลงทุนในหุ้นรายตัว โดยหุ้นบริษัทใดที่มีผลประกอบการไตรมาส 3/60 กำไรออกมาดีเกินคาดก็จะเคลื่อนไหวเด่นกว่าตลาด แต่หุ้นบริษัทใดมีผลประกอบการออกมาแย่กว่าคาด ก็จะเคลื่อนไหวแย่กว่าตลาด หลังจากนี้นักลงทุนก็จะยังจับตามุมมองต่อผลประกอบการในระยะต่อไป หรือแนวโน้มธุรกิจในปีหน้าของบริษัทจดทะเบียนเพื่อประกอบการลงทุน
อย่างไรก็ตาม ดัชนีหุ้นไทยยังมี downside จำกัด เนื่องจากยังมีมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจของประเทศที่ฟื้นตัวขึ้น และคาดหวังว่าจะยังมีแรงซื้อเข้ามาจากการที่ MSCI ได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนซึ่งจะมีผลในสิ้นเดือนนี้ (30 พ.ย.) รวมถึงเม็ดเงินจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่คาดว่าจะเข้ามาอีกราว 3 หมื่นล้านบาท
ส่วนแนวโน้มการซื้อขายวันพรุ่งนี้ คาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหว Sideway ย่ำฐาน โดยมี downside จำกัด เพื่อรอปรับตัวขึ้นรอบใหม่ แต่การที่หุ้นปรับตัวลงเป็นโอกาสการสะสมหุ้นรายตัวที่มีผลประกอบการดี และมีแนวโน้มจะดีขึ้นอีกในปีหน้า ส่วนการจัดงาน SET in the City ในวันพรุ่งนี้คงไม่ได้ช่วยหนุนตลาดมากนัก เพราะส่วนใหญ่รับรู้มุมมองที่เป็นบวกไปแล้ว
โดยมองดัชนีมีแนวรับบริเวณ 1,690 จุด และแนวต้าน 1,700 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
IVL มูลค่าการซื้อขาย 4,603.30 ล้านบาท ปิดที่ 49.50 บาท ลดลง 2.75 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,046.00 ล้านบาท ปิดที่ 412.00 บาท ลดลง 6.00 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,662.05 ล้านบาท ปิดที่ 24.40 บาท ลดลง 0.60 บาท
BJC มูลค่าการซื้อขาย 1,467.27 ล้านบาท ปิดที่ 54.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท
ESSO มูลค่าการซื้อขาย 1,436.87 ล้านบาท ปิดที่ 15.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท