CPN ตั้งเป้าปี 61 รายได้โต 20% จากปีนี้โต 6%,สรุปแผนร่วมทุนธุรกิจค้าปลีกกับ"เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น"ต้นปี 61

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 24, 2017 15:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวปัทมิกา พงศ์สูรย์มาส ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการเงิน บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 61 เติบโต 20% จากปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตตามเป้าหมายที่ 6% หลังการปรับปรุงศุนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จะแล้วเสร็จในช่วงเดือนก.ค. 61 และจะกลับมาให้บริการได้อย่างเต็มที่ ทำให้อัตราการเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าอัตราการเช่าพื้นที่ในปี 61 จะอยู่ที่ 93-94% จาก 91% ในปีนี้ และอัตราการเติบโตของรายได้ค่าเช่าศูนย์การค้าเดิมจะเติบโต 3-4%

อีกทั้งในปี 61 เตรียมเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่เพิ่มขึ้นอีก 2-3 แห่ง ทั้งในไทยและในต่างประเทศ ได้แก่ เซ็นทรัลภูเก็ต เซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ มาเลเซีย และอีกหนึ่งโครงการในประเทศในย่านชานเมือง ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเปิดในปีหน้าหรือไม่

นอกจากนี้ในปีหน้า บริษัทจะรับรู้รายได้จากการโอนโครงการคอนโดมิเนียม 3 แห่ง ได้แก่ ESCENT เชียงใหม่ ESCENT ขอนแก่น และ ESCENT ระยอง คาดว่าจะรับรู้รายได้เข้ามาราว 2.8-3 พันล้านบาท ทำให้สัดส่วนรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยในปี 61 จะเพิ่มเป็น 3-5% และตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยเป็น 8-10% หรือมีรายได้แตะ 1 หมื่นล้านบาท ภายในปี 63 โดยจะมีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม 2-3 โครงการ/ปี

ส่วนงบลงทุนในปี 61 บริษัทตั้งไว้ที่ 1.7-1.8 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการลงทุนก่อสร้างศูนย์การค้าอื่น ๆ ที่อยู่ในแผน โดยตามแผน 5 ปี (ปี 60-64) บริษัทจะพัฒนาศูนย์การค้าใหม่ราว 2-3 โครงการ/ปี รวมถึงการปรับปรุงสินทรัพย์ที่มีอยู่เพื่อเพิ่มมูลค่าอีก 2-3 โครงการ/ปี ซึ่งปัจจุบันโครงการที่อยู่ระหว่างการปรับปรุง คือ เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพระราม 3 และเซ็นทรัลพระราม 2 อีกทั้งเตรียมเงินลงทุนเพื่อใช้ซื้อที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการอื่น ๆ ในอนาคต

ส่วนโครงการอื่นที่บริษัทได้ไปร่วมทุนกับพันธมิตรอื่น ๆ เช่น การร่วมทุนกับบมจ.ดุสิตธานี (DTC) ในการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสบนทำเลโครงการดุสิตธานี กรุงเทพฯ หัวมุมถนนพระราม 4 คาดว่าตามกำหนดการจะเริ่มรื้อถอนในช่วงเดือน ก.ค.61 ซึ่งบริษัทจะเข้าไปพัฒนาในส่วนของศูนย์การค้าและอาคารสำนักงาน ขณะที่ DTC จะพัฒนาในส่วนของโรงแรมและที่อยู่อาศัย ซึ่งปัจจุบันการออกแบบโครงการยังไม่แล้วเสร็จ ทำให้ยังไม่แน่นอนว่าการเริ่มก่อสร้างโครงการจะยังเป็นไปตามกำหนดเดิมหรือไม่

นอกจากนี้บริษัทยังได้ร่วมทุนกับพันธมิตรในประเทศอีกหนึ่งราย คือ บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น จำกัด ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในชื่อ บริษัท ซินเนอร์จิสติก พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในสัดส่วนการถือหุ้น 50:50 โดยมีแผนพัฒนาโครงการค้าปลีกร่วมกันเพราะเป็นธุรกิจที่ทั้งสองฝ่ายมีความเชี่ยวชาญ โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในต้นปี 61

นางสาวปัทมิกา กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/60 คาดว่าจะดีกว่าไตรมาส 3/60 และช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าในไตรมาส 4/60 จะมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นกว่าช่วงปกติ เพราะมีจำนวนกิจกรรมมากขึ้น เพื่อต้องการกระตุ้นยอดขายในศูนย์การค้าและดึงดูดผู้ใช้บริการให้เข้ามามากขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทได้หยุดปรับปรุงศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ชั่วคราวในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.60 เพื่อให้ศูนย์การค้าสามารถเปิดบริการลูกค้าได้อย่างเต็มที่ และมีการนำผู้เช่าพื้นที่อื่น ๆ ที่ได้ปิดปรับปรุงในช่วงที่เริ่มดำเนินการกลับมาให้บริการ ก็จะทำให้อัตราการเช่าพื้นที่ของศูนย์การค้าในเครือของบริษัท ในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้จะกลับมาในระดับ 90% หลังจากลดลงไปที่ 83% ในไตรมาส 3/60 เพราะการปรับปรุงเซ็นทรัลเวิลด์

ด้านแผนการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNREIT) ในช่วงปลายปีนี้ เตรียมจะนำพื้นที่เช่าของศูนย์การค้าเซ็นทรัลพัทยา บีช บางส่วน และโรงแรมฮิลตัน พัทยา เสนอขายเข้ากอง CPNREIT ซึ่งคาดว่าบริษัทจะมีรายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากอง CPNREIT เข้ามาราว 1.19 หมื่นล้านบาท ในช่วงเดือนธ.ค. 60 โดยเงินที่ได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองรีทในสัดส่วน 50% บริษัทจะนำไปคืนหนี้เงินกู้ระยะสั้น และอีก 50% จะใช้สำหรับการลงทุนก่อสร้างโครงการอื่น ๆ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ