ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,693.99 จุด ลดลง 1.85 จุด (-0.11%) มูลค่าการซื้อขาย 25,298.42 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,699.71 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,690.05 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบสลับกัน เนื่องจากตลาดฯกำลังรอปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน ขณะเดียวกันก็ยังต้องติดตามปัจจัยต่าง ๆ จากนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.หากมีการขยายระยะเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 6 เดือนตามคาดก็เป็นเรื่องที่ตลาดรับรู้แล้ว และหากไม่มีมติอื่นๆ ก็อาจมองได้ว่าราคาน้ำมันใกล้ถึงจุดสูงสุด (Peak) แล้ว
นอกจากนี้ ให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของจีน, สหรัฐฯ และยุโรป โดยให้ติดตามตัวเลข PMI ภาคการผลิต ที่จะทยอยประกาศออกมา โดยดูว่าจะมีการย่อตัวอีกไหม หลังจากเดือนที่แล้วมีการเติบโตในอัตราที่ชะลอตัว อีกทั้งให้รอดู MSCI ปรับตระกร้าหุ้นในวันที่ 30 พ.ย.นี้ด้วย ซึ่งหุ้นที่จะเข้าหลายตัวได้ปรับตัวขึ้นมาแล้ว มีแค่บางตัวที่ยังติดลบอยู่ คือ ORI ที่ยัง Laggard รวมไปถึงการโหวตเสียงของวุฒิสภาสหรัฐฯต่อร่างกฏหมายปฏิรูปภาษีสัปดาห์นี้ จะเป็นร่างเดียวกับที่ผ่านมติสภาผู้แทรราษฏรหรือไม่ เพราะถ้าเป็นคนละฉบับอาจทำให้การนำมาบังคับใช้ยืดเยื้อ
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบ โดยเฉพาะตลาดหุ้นเกาหลีใต้ และตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ซึ่งก็คงจะเป็นปัจจัยเฉพาะตัวของแต่ละตลาดฯเอง
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดฯคงแกว่งไซด์เวย์ โดยให้แนวรับ 1,685 จุด ส่วนแนวต้าน 1,705 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,013.62 ล้านบาท ปิดที่ 48.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
QH มูลค่าการซื้อขาย 663.37 ล้านบาท ปิดที่ 3.02 บาท ลดลง 0.18 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 618.15 ล้านบาท ปิดที่ 75.00 บาท ลดลง 0.25 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 617.84 ล้านบาท ปิดที่ 486.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
BGRIM มูลค่าการซื้อขาย 504.06 ล้านบาท ปิดที่ 25.25 บาท ลดลง 1.00 บาท