นายไรวินท์ เลขวรนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บูรพา เทคนิคอล เอ็นจิเนียริ่ง (ETE) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 61 เติบโตสูงขึ้นเป็น 20-30% จากปีนี้ที่เติบโต 15-20%
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าทิศทางการดำเนินงานในปีหน้าจะมีการเติบโตในทุกธุรกิจที่จะมีรายได้เข้ามาเพิ่มมากขึ้น โดยจะมีการรับรู้รายได้จากมูลค่างานในมือ (Backlog) ในส่วนของธุรกิจบริการวิศวกรรม ธุรกิจบริการบริหารจัดการ (Outsourcing) ธุรกิจเทรดดิ้ง ราว 700-800 ล้านบาทในช่วงต้นปี จาก Backlog ที่มีอยู่ทั้งหมดราว 895 ล้านบาท
อีกทั้งบริษัทยังมีการรับรูรายได้จากธุรกิจพลังงานในโครงการโซลาร์ฟาร์มขนาด 16 เมกะวัตต์ เข้ามาเต็มปีในปี 61 ราว 130 ล้านบาท เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสนับสนุนรายได้ในปีหน้าเติบโตสูงขึ้น
“โดยภาพรวมผลประกอบการของบริษัทฯในปีนี้น่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่เราได้วางไว้ ถือว่าเป็นผลงานที่น่าพอใจ ส่วนปีหน้าเราก็คาดว่าจะสามารถเติบโตต่อเนื่องได้ จากการรับรู้รายได้จากธุรกิจเทรดดิ้งเข้ามาเต็มปี และปริมาณงานด้าน Engineering ก็คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นตามการลงทุนของทั้งภาครัฐ และเอกชน" นายไรวินท์ กล่าว
ขณะที่สัดส่วนรายได้ในปี 61 จะมาจากธุรกิจบริการวิศวกรรมเพิ่มขึ้นเป็น 60% จากปัจจุบัน 50% เนื่องจากแนวโน้มปริมาณงานที่จะเพิ่มขึ้นมากขึ้น ตามโครงการต่างๆที่จะเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก เช่น โรงไฟฟ้า และ รถไฟฟ้าสายต่างๆ เป็นต้น ส่วนรายได้จากธุรกิจบริการบริหารจัดการจะลดลงมาอยู่ที่ 20% จากปัจจุบัน 50% สัดส่วนรายได้จากธุรกิจเทรดดิ้งอยู่ที่ 10% และสัดส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงานอยู่ที่ 10%
ปัจจุบัน บริษัทมีงานที่อยู่ระหว่างติดตามและยื่นประมูลไปแล้วมูลค่ารวม 3 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงานของธุรกิจบริการวิศวกรรมที่จะทยอยประกาศผลในปี 61 ซึ่งบริษัทคาดหวังจะได้รับงานราว 20% ของมูลค่าที่ยื่นประมูลไป พร้อมตั้งเป้ารักษาระดับของ Backlog ในแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท เพื่อรองรับรายได้ในอนาคต
ขณะเดียวกันในธุรกิจเทรดดิ้ง บริษัทตั้งเป้ารับออเดอร์จากลูกค้าในปี 61 ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท โดยจะเป็นปีแรกที่บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจเทรดดิ้งได้เต็มที่ทั้งปี
นายไรวินทร์ กล่าวว่า การรับงานของบริษัทจะหันมาเน้นงานที่ให้มาร์จิ้นดีมากขึ้น และใช้การปฏิบัติการของบริษัทที่ลดลง โดยบริษัทจะเน้นการเพิ่มรักษาและเพิ่มกำไรมากกว่าการเน้นการเติบโตทางด้านรายได้และปริมาณงาน ซึ่งบริษัทตั้งเป้าที่จะมีอัตรากำไรสุทธิในปี 61 อยู่ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 8-9% จากปีนี้คาดว่าอยู่ที่กว่า 8%
สำหรับธุรกิจพลังงาน บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อซื้อโครงการโซลาร์ฟาร์มในประเทศ เพื่อเป็นการเพิ่มขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าของบริษัทเพื่อสร้างรายได้ประจำให้เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนของการเข้าซื้อโครงการโซลาร์ฟาร์มที่อยู่ระหว่างเจรจาในปี 61 ซึ่งแหล่งเงินรองรับมาจากกระแสเงินสดที่ยังมีเพียงพอ และมีความสามารถในการกู้เงินจากสถาบันการเงินอีกด้วย
ส่วนผลการดำเนินงานของปี 60 บริษัทมีความมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตตามเป้าหมายที่ 15-20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.41 พันล้านบาท โดยจะเห็นการเติบโตอย่างโดดเด่นของรายได้และกำไรในช่วงไตรมาส 4/60 ที่เป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปื จากการเลื่อนรับรู้รายได้ของงานวิศกรรมที่มีการปรับปรุงดีไซน์ใหม่ ทำให้การรับรู้รายได้มากระจุกตัวอยู่ในไตรมาสสุดท้ายของปี ขณะที่บริษัทจะมีการเซ็นสัญญางานใหม่ที่เป็นงานวิศวกรรมและงานบริการบริหารจัดการเข้ามาเพิ่มอีก 400 ล้านบาท