ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,736.58 จุด ลดลง 1.58 จุด (-0.09%) มูลค่าการซื้อขาย 17,351.20 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,742.04 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,734.73 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาดัชนีแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบ หลังจากที่ปัจจัยเกี่ยวกับร่างกฏหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯตลาดได้รับข่าวไปค่อนข้างมากแล้ว ซึ่งทำให้ช่วงแรกมีการขายทำกำไรออกมาบ้างกดดันดัชนีในช่วงต้นของการทำการซื้อขายในภาคเช้า ซึ่งสอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ที่ปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรที่มาจากการ Sell on fact
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังได้รับแรงหนุนจากการประกาศตัวเลขการส่งออกเดือน พ.ย.60 จากกระทรวงพาณิชย์ในช่วงเช้าวันนี้ที่ออกมาขยายตัวได้ดีกว่าคาด ส่งผลหนุนให้ดัชนีหุ้นไทยสามารถพลิกกลับมาเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ในบางช่วง แต่ก็ยังเผชิญกับแรงขายที่ออกมากดดัน
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายคาดว่าการเคลื่อนไหวยังคงผันผวนอยู่ในกรอบแคบ ในขณะที่แนวโน้มของการอัพไซด์อาจจะยังไม่มากนัก เพราะยังไม่มีปัจัยอื่นๆในเชิงบวกที่เข้ามาส่งผลอย่างมีนัยสำคัญ แต่ตลาดหุ้นไทยยังคงได้รับแรงผนุนจากการเข้าซื้อของกงอทุน LTF และ RMF ในช่วงนี้ ทำให้ยังมีการอัพไซด์ได้เล็กน้อย
พร้อมให้แนวต้าน 1,743-1,745 จุด แนวรับ 1,735 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,130.33 ล้านบาท ปิดที่ 18.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 688.55 ล้านบาท ปิดที่ 438.50 บาท ลดลง 2.00 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 548.51 ล้านบาท ปิดที่ 19.10 บาท ลดลง 0.10 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 547.51 ล้านบาท ปิดที่ 65.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 490.46 ล้านบาท ปิดที่ 233.00 บาท ลดลง 1.00 บาท