SET ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,736.91 จุด ลดลง 1.25 จุด (-0.07%) มูลค่าการซื้อขาย 36,105.80 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ-วอลุ่มบางช่วงใกล้คริสต์มาสและปีใหม่ ขณะที่นักลงทุนซึมซับข่าวการที่สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐไปแล้ว เม็ดเงินจากกองทุนในประเทศยังเข้าซื้อสุทธิต่อเนื่อง และตัวเลขส่งออกเดือนพ.ย.ที่สดใสช่วยประคองดัชนีไม่ให้ปรับลงมาก ส่วนแนวโน้มพรุ่งนี้คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบต่อไป ให้แนวรับบริเวณ 1,730 และ 1,725 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,744 และ 1,750 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,736.91 จุด ลดลง 1.25 จุด (-0.07%) มูลค่าการซื้อขาย 36,105.80 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกและลบ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,742.04 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,734.73 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 475 หลักทรัพย์ ลดลง 689 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 473 หลักทรัพย์
นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยค่อนข้างเงียบเหงา หลังตากปัจจัยต่างประเทศเรื่องร่างกฎหมายปฎิรูปภาษีของสหรัฐฯผ่านการพิจารณาของสภาคองเกรสไปแล้ว ซึ่งตลาดต่างประเทศก็ไม่ได้ตอบรับมากนัก โดยนักลงทุนเลือกลงทุนหุ้นรายตัวในช่วงใกล้วันหยุดเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่
ส่วนปัจจัยภายในประเทศ ยังได้แรงหนุนจากเม็ดเงินลงทุนจากภายในประเทศเป็นหลัก ซึ่งในช่วงที่ผ่านมากองทุนภายในประเทศยังซื้อสุทธิต่อเนื่อง ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจของไทยยังบวก โดยล่าสุด ตัวเลขส่งออกเดือน พ.ย.ขยายตัวถึง 13.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมียอดเกินดุลการค้า ขณะที่มุมมองของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ต่อเศรษฐกิจของไทยยังมีแนวโน้มในเชิงบวก พร้อมกับปรับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปีนี้เติบโต 3.9% จากเดิมคาดโต 3.8%
อย่างไรก็ตาม แรงซื้อที่มีเข้ามาในตลาดเริ่มชะลอตัวลง แต่ก็ไม่มีแรงขายออกมามากเกินไป เพราะบางส่วนยังมีความคาดหวังต่อการทำราคาปิดสิ้นงวดบัญชี (window dressing) ในสัปดาห์หน้าด้วย
สำหรับแนวโน้มการซื้อขายในวันพรุ่งนี้ คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยหากดัชนีปรับขึ้นก็จะไม่มากนัก หรือหากปรับลงก็เป็นลักษณะของการซึมตัวลง หลังเข้าใกล้ช่วงวันหยุดเทศกาล โดยมองแนวรับบริเวณ 1,730 จุด และ 1,725 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,744 จุด และ 1,750 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,971.90 ล้านบาท ปิดที่ 19.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,794.58 ล้านบาท ปิดที่ 438.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,193.17 ล้านบาท ปิดที่ 19.10 บาท ลดลง 0.10 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 986.56 ล้านบาท ปิดที่ 99.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 902.67 ล้านบาท ปิดที่ 233.00 บาท ลดลง 1.00 บาท