ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,786.41 จุด เพิ่มขึ้น 7.88 จุด (+0.44%) มูลค่าการซื้อขาย 47,306.30 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,789.91 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,779.28 จุด
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจนสามารถไปแตะระดับสถิติสูงสุดเดิมได้ที่ 1,789 จุด และหลังจากนั้นก็เริ่มย่อตัวลงมาจากแรงขายทำกำไร แต่ดัชนียังสามารถยืนในแดนบวกได้จากแรงซื้อที่เข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีเพื่อเก็งกำไรผลการดำเนินงานไตรมาส 4/60 ที่คาดว่าจะออกมาดีเป็นปัจจัยหนุนหลัก รวมถึงมูลค่าการซื้อขายในวันนี้ที่ยังคึกคักอย่างมาก
ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียในช่วงเช้าปรับตัวเพิ่มขึ้นจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ยังคงอ่อนค่า ทำให้มีการนำเงินเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น อีกทั้งแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯจะเริ่มปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่ออัตราผลตอบแทนในตลาดพันธบัตรที่ลดลง ทำให้มีเงินไหลออกจากตลาดพันธบัตรไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายคาดว่าดัชนียังคงทรงตัวในแดนบวกได้ต่อ จากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีเป็นหลัก และมีการกระจายกลุ่มหุ้นที่นักลงทุนเข้าซื้อเข้ามาเสริม เช่น แบงก์ เช่าซื้อ และ วัสดุก่อสร้าง เป็นต้น
พร้อมให้แนวต้าน 1,790 จุด แนวรับ 1,775 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 3,738.53 ล้านบาท ปิดที่ 20.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,495.46 ล้านบาท ปิดที่ 456.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 2,214.51 ล้านบาท ปิดที่ 88.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,113.30 ล้านบาท ปิดที่ 68.00 บาท ลดลง 0.75 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,699.05 ล้านบาท ปิดที่ 70.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง