ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,839.41 จุด เพิ่มขึ้น 0.45 จุด (+0.02%) มูลค่าการซื้อขาย 34,074.96 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,848.07 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,838.50 จุด
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ฟื้นตัวขึ้น จากแรงหนุนหุ้นขนาดใหญ่ทั้งหุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มแบงก์ แต่ดูแล้ววอลุ่มเทรดของตลาดโดยรวมชะลอลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ซึ่งในแต่ละวันวอลุ่มเทรดมี 5-6 หมื่นล้านบาท ดังนั้นจะต้องระวังการปรับตัวขึ้นไปต่อ โดยมองแถว 1,850 จุด มีโอกาสที่จะมีแรงขายทำกำไรตามมา
ทั้งนี้ หุ้นที่ปรับตัวขึ้นไปมากในวันนี้เป็นหุ้นที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้ปรับขึ้น จึงประเมินช่วงสั้นการเก็งกำไรอาจชะลอตัวลง นอกจากนี้ Consensus ได้ระบุว่าประเทศไทยเป็นเพียงประเทศเดียวที่ถูกปรับลดประมาณการกำไรลง 0.5% ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ได้รับการปรับเพิ่มประมาณการกำไร ซึ่งก็คาดว่าจะเป็นผลมาจากกลุ่มแบงก์ ที่ได้ประกาศงบฯไปเรียบร้อยแล้ว
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ซึ่งหลายตลาดฯก็เริ่มที่จะมีแรงขายทำกำไร พร้อมให้ติดตามกฎหมายการเลือกตั้งของไทย ซึ่งถ้าไม่ล่าช้าไปกว่าต้นปี 2562 ความกังวลก็จะไม่มากนัก และให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีขึ้นในวันนี้ ส่วนที่เงินบาทแข็งค่า และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังปรับขึ้น ทำให้เป็นผลลบต่อกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ ผลประกอบการอาจไม่ดี และมีโอกาสที่จะถูกปรับลดประมาณการลง ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงกลุ่มนี้ไปก่อน
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายกิจพล กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัว พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,835-1,850 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,535.25 ล้านบาท ปิดที่ 492.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,504.97 ล้านบาท ปิดที่ 97.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,373.71 ล้านบาท ปิดที่ 119.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,283.32 ล้านบาท ปิดที่ 229.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
IRPC มูลค่าการซื้อขาย 1,093.81 ล้านบาท ปิดที่ 7.55 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท