(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ซึมลงคล้ายตลาดภูมิภาค เล็งขายทำกำไรก่อนรู้ผลประชุมเฟด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 31, 2018 09:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะซึมลงสู่บริเวณ 1,815-1,820 จุด แต่อาจจะฟื้นตัวได้ระหว่างทาง ซึ่งมองว่าการปรับตัวลงเป็นจังหวะในการซื้อ โดยที่ผ่านมาตลาดฯมีแรงขายทำกำไรออกมาก่อนรู้ผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้ ซึ่งก็คาดว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในงวดนี้

หลังทราบผลประชุมเฟดก็คาดว่าตลาดฯน่าจะฟื้นตัวขึ้นได้ และทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐฯ (Bond Yield) คลายตัวลงด้วยหลังจากที่ขึ้นสูง ส่วนตลาดหุ้นทั่วโลกก็จะได้รับอานิสงส์ไปด้วย ซึ่งก็คาดหวังการฟื้นตัวได้ในวันพรุ่งนี้

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะปรับตัวลงราว 0.3% ซึ่งถือว่าไม่มาก แต่ลักษณะแค่การชะลอลง พร้อมให้แนวรับ 1,815-1,820 จุด ส่วนแนวต้าน 1,830 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

-ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (30 ม.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,076.89 จุด ดิ่งลง 362.59 จุด (-1.37%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,822.43 จุด ลดลง 31.10 จุด (-1.09%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,402.48 จุด ลดลง 64.02 จุด (-0.86%)

  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 86.74 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 10.37 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 17.50 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 171.53 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 22.42 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 17.27 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 78.65 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ลดลง 27.50 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (30 ม.ค.61) 1,826.61 จุด ลดลง 10.88 จุด (-0.59%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,545.21 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 ม.ค.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (30 ม.ค.61) ปิดที่ระดับ 64.50ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.06 ดอลลาร์ หรือ 1.5%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (30 ม.ค.61) ที่ 6.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.41 แข็งค่าจากวานนี้ หลังมีแรงขายดอลล์-ตลาดจับตาสัญญาณเศรษฐกิจจาก FED
  • แบงก์ชาติ-สภาพัฒน์ จ่อปรับคาดการณ์ "จีดีพี" ปีนี้เพิ่ม หลังส่งออก-ท่องเที่ยวเติบโตดีเกินคาด ด้าน ธปท. ส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยยาว เหตุ กนง. อยากเห็นเศรษฐกิจกระจายตัวมากกว่านี้ ด้าน สศช. มอง "จีดีพี" ปีนี้แนวโน้มโต 4.1% สูงสุดรอบ 6 ปี
  • นายกสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เผยจากการประเมินตัวเลขการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ปี 2561 คาดว่าจะเติบโตราว 10-15% สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีอัตราเติบโต 14.89% โดยมูลค่าการส่งออกเฉลี่ยอยู่ที่ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ/ปี
  • ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยในงานสัมมนาอสังหาริมทรัพย์ ดัชนีหลักชี้เศรษฐกิจ ปี 2018 ว่าขณะนี้มีความเป็นห่วง แนวโน้มสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่เริ่มเห็นสัญญาณหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เพิ่มขึ้นสูงสุดในบรรดาสินเชื่อรายย่อยในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2560 ที่ผ่านมา อยู่ที่ 3.26% ทั้งนี้สินเชื่อบ้านเป็นสินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันและมีความปลอดภัยมากที่สุด เมื่อกลายเป็นเอ็นพีแอลระดับสูงจึงไม่สบายใจ ต้องรอดูตัวเลขไตรมาส 4 อีกครั้ง แต่สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ของผู้ประกอบการยังไม่น่าเป็นห่วงมากนัก
  • นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบให้จัดสรรงบกลาง ในงบประมาณปี 60 ในรายการค่าใช้จ่ายส่งเสริมและสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจในประเทศ วงเงิน 2,105.96 ล้านบาท เพื่อจัดสรรให้กับ 7 หน่วยงาน รวม 7 โครงการ โดยกรมการพัฒนาชุมชนได้รับการจัดสรรมากที่สุด รวม 641.53 ล้านบาทเพื่อดำเนินโครงการหมู่บ้านโอทอป เพื่อการท่องเที่ยว 8 เส้นทาง
  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติรับทราบการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามมติคณะกรรมการค่าจ้าง โดยในเอกสารการประชุมระบุว่าจะมีการปรับขึ้น 5-22 บาท/วัน ในทุกจังหวัดมาที่ 308-330 บาท เริ่มมีผลตั้งแต่ 1 เม.ย.61 พร้อมทั้งมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรม ดำเนินการตามมาตรการเพื่อลดผลกระทบจากการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำต่อไป

*หุ้นเด่นวันนี้

  • MGT (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 3.00 บาท คาดกำไรสุทธิ Q4/60 ทำสถิติใหม่ที่ 13 ล้านบาท +7% Q-Q, +76% Y-Y รวมทั้งปี 2560 คาด +44% Y-Y อยู่ที่ 47 ล้านบาท จากรายได้ที่โตและการบริหารต้นทุนรวมถึงค่าใช้จ่ายได้มีประสิทธิภาพ โดยประทับใจกลยุทธ์ใหม่ของ MGT ที่เข้าประมูลงานใหญ่ผ่านโครงข่ายของ Megachem ซึ่งล่าสุดได้คำสั่งซื้อในระดับเกือบ 20% ของรายได้รวมที่ทำได้แต่ละปี และยังมีอีก 2-3 ดีลที่รอปิดการขาย เมื่อรวมผลบวกจากบาทแข็ง ที่ทุก 1% จะทำให้กำไรสุทธิเพิ่ม 3% ทำให้กำไรปี 2561 ที่ทำไว้ 60 ล้านบาท +28% Y-Y อาจต่ำเกินไป นอกจากนี้เป็นหุ้นที่ชอบขึ้นสวนตลาด ขณะที่ปันผลคาดจ่ายมากกว่าเดิมเพราะเป็นบริษัทที่ไม่มีหนี้และดีล M&A ยังไม่เกิดขึ้นเร็ว โดยคาด Yield เฉพาะ H2/60 ราว 2%
  • SAT (เคทีบี) "ซื้อ"เป้า 22 บาท แม้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2561 อาจยังเติบโตไม่มาก อย่างไรก็ตาม คาดว่า SAT ยังได้ผลบวกจากธุรกิจเครื่องจักรกลทางการเกษตรที่ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นได้โดดเด่น รวมถึงคาดว่าระยะสั้นจะมีปัจจัยหนุนจากกำไรสุทธิ Q4/60 เพิ่มขึ้นโดดเด่น ประเมินกำไรปกติ Q4/60 ที่ 180 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% YoY แต่ลดลง 19% QoQ ซึ่งเป็นไปตามทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ส่วนกำไรสุทธิ Q4/60 จะโดดเด่น เนื่องจากจะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการโอนธุรกิจสปริงไปเป็นบริษัทร่วม
  • COM7 (กสิกรไทย) "ซื้อ"เป้า 17.50 บาท คาดกำไรสุทธิงวด Q4/60 ที่ 188 ล้านบาท เติบโต 24.7% QoQ และ 28.4% ถือเป็นกำไรที่สูงที่สุดในประวิติการณ์อีกครั้ง โดยได้ผลักดันมาจากรายได้การขาย iPhone ทั้ง 3 รุ่น (iPhone 8, iPhone 8 Plus,และ iPhone X) รวมถึงด้านอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นจากการเปิดเบอร์ใหม่และการย้ายค่ายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทพาร์ทเนอร์อย่าง TRUE ได้ออกโปรโมชั่นส่วนลด 4,000-9,000 ให้กับผู้ที่เปิดเบอร์ใหม่หรือย้ายค่าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ