ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,833.60 จุด เพิ่มขึ้น 6.74 จุด (+0.37%) มูลค่าการซื้อขาย 61,774.96 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,837.86 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,830.55 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 532 หลักทรัพย์ ลดลง 788 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 396 หลักทรัพย์
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัวเล็กน้อย แต่ปริมาณการซื้อขายโดยรวมชะลอ ซึ่งดัชนีฯฟื้นตัวขึ้นได้จากแรงเก็งกำไรหุ้นรายตัว อย่างหุ้นในกลุ่ม PTT ก็จะได้แรงดันจากหุ้น PTT, PTTEP และเลือกเล่นรายตัวในหุ้นกลุ่มการแพทย์, กลุ่มแบงก์, กลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยกลุ่มพลังงานเป็นแกนหลักในการดึงกลุ่มอื่นเข้ามา
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนก.พ.เป็นช่วงของการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ดังนั้นตลาดฯคงจะเป็นลักษณะของการเล่นเก็งกำไรหุ้นเป็นรายตัวมากกว่า ซึ่งถ้างบฯออกมาไม่ดีก็มีความเสี่ยงที่จะถูกขายได้ แต่บรรยากาศการลงทุนในตลาดฯยังดีอยู่ พร้อมแนะให้เน้นลงทุนหุ้นที่ยังไม่ค่อยปรับขึ้นไปในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหุ้นที่ได้ปรับขึ้นไปมากแล้วในช่วงที่ผ่านมาก็อาจจะต้องเจอแรงขายทำกำไรได้
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น โดยช่วงนี้ปัจจัยของแต่ละตลาดฯขึ้นกับงบฯของแต่ละประเทศ ซึ่งก็ต้องระวังการเคลื่อนย้ายเงินทุน เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐฯขึ้นสูง ทำให้ความน่าสนใจในพันธบัตรเพิ่มขึ้น หากงบฯออกมาไม่ดีนักลงทุนก็พร้อมที่จะโยกเงินทุนไปพันธบัตร
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (2 ก.พ.) นายกิจพล กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้อยู่ โดยยังต้องติดตามการทยอยประกาศงบฯต่อไป พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,826-1,850 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,369.91 ล้านบาท ปิดที่ 498.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,363.62 ล้านบาท ปิดที่ 22.50 บาท ลดลง 0.30 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,184.11 ล้านบาท ปิดที่ 121.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,074.33 ล้านบาท ปิดที่ 80.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,063.92 ล้านบาท ปิดที่ 22.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท