ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดบวก 8.77 จุด ยืนเหนือ 1,800 จุด ตลาดปรับตัวเลือกลงทุน Defensive stock ระหว่างรอปัจจัยใหม่หนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 15, 2018 17:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

SET ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,800.86 จุด เพิ่มขึ้น 8.77 จุด (+0.49%) มูลค่าการซื้อขาย 44,644.85 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดปรับลงซึมซับปัจจัยลบทั้งเงินเฟ้อ-Bond yield สหรัฐสูง และยังไร้ปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนให้มีทิศทางฟื้นตัวที่ชัดเจน ทำให้ภาพตลาดช่วงนี้แกว่ง Sideway และผันผวนระหว่างวัน หลังนักลงทุนต่างปรับต้นทุนรวมให้มสมดุลระหว่างรอปัจจัยใหม่พร้อมกับเลือกลงทุนหุ้นปลอดภัย (Defensive stock) ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายเบาบางช่วงเทศกาลตรุษจีน แนวโน้มพรุ่งนี้คาดตลาดยังแกว่งตัวต่อเนื่องและอาจผันผวนระหว่างวัน ให้แนวต้าน 1,805 และ 1,820 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,785 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,800.86 จุด เพิ่มขึ้น 8.77 จุด (+0.49%) มูลค่าการซื้อขาย 44,644.85 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,801.95 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,790.80 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 633 หลักทรัพย์ ลดลง 670 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 447 หลักทรัพย์

นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดเคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัว แต่มีความผันผวนแรงระหว่างวัน โดยตลาดซึมซับปัจจัยลบที่เข้ามากระทบทั้งอัตราเงินเฟ้อ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond yield) ของสหรัฐที่อยู่ในระดับสูง ทำให้ตลาดหุ้นต่างประเทศปรับตัวลงแรงในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงตลาดหุ้นไทย

แต่การที่ตลาดหุ้นไทยยังไม่รีบาวด์กลับขึ้นไป แม้ตลาดหุ้นต่างประเทศจะฟื่นตัวหลายวันแล้ว เนื่องจากนักลงทุนยังอยู่ระหว่างปรับต้นทุนรวมให้มีความสมดุลมากขึ้น และยังไม่มั่นใจต่อการฟื้นตัวของตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยยังรอปัจจัยบวกใหม่เพื่อสนับสนุนทิศทางตลาดที่ชัดเจนมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเข้ามาเลือกเล่นหุ้นเป็นรายตัวในหุ้นขนาดกลางและเล็ก รวมถึงหุ้นในกลุ่ม Defensive stock อย่างกลุ่มโรงพยาบาล และกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้ารุ่นเก่าอย่าง EGCO ที่ยังมี P/E ต่ำเมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ราคาหุ้นปรับขึ้นไปมากจนมีค่า P/E ในระดับสูง อย่าง GPSC ที่เริ่มเห็นมีแรงขายออกมา โดยการเลือกลงทุนหุ้นรายตัวดังกล่าวเพื่อเป็นการพักเงินระยะสั้น รอความมั่นใจเพิ่มขึ้น ซึ่งในระหว่างนี้ก็อาจทำให้ภาพตลาดเป็นลักษณะของการเทรดดิ้ง ทำให้ตลาดไม่ปรับขึ้นไปมากในทำนองเดียวกันก็จะไม่ลงลึกมากระหว่างรอปัจจัยบวกใหม่เข้ามา

สำหรับภาพการลงทุนในวันพรุ่งนี้ คาดว่าดัชนีจะยังเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกันกับช่วงที่ผ่านมา ที่อาจจะเห็นความผันผวนแรงได้ระหว่างวัน โดยยังต้องติดตามปัจจัยจากต่างประเทศ ทั้งการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐ หากปรับตัวขึ้นแรงก็อาจจะทำให้มีโมเมนตัมมายังตลาดหุ้นไทยให้ปรับตัวขึ้นได้ด้วยเช่นกัน ตลอดจนติดตามทิศทางราคาน้ำมัน ส่วนภายในประเทศยังไม่มีปัจจัยเข้ามากระตุ้นมากนัก ขณะที่วอลุ่มซื้อขายอาจจะเบาบางไปในช่วงตรุษจีน โดยมองแนวต้านบริเวณ 1,805 และ 1,820 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,785 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,288.05 ล้านบาท ปิดที่ 486.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,073.56 ล้านบาท ปิดที่ 21.80 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,874.95 ล้านบาท ปิดที่ 148.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,735.62 ล้านบาท ปิดที่ 69.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

STEC มูลค่าการซื้อขาย 1,617.33 ล้านบาท ปิดที่ 21.70 บาท ลดลง 1.70 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ