ทริส จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ชุดใหม่ 3 พันลบ.ของ QH ที่" A-" แนวโน้ม Stable

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 19, 2018 10:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บมจ. ควอลิตี้เฮ้าส์(QH) ที่ระดับ "A-" พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 3 ปี ของบริษัทที่ระดับ "A-" เช่นเดียวกัน โดยบริษัทจะนำเงินจากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ชำระหนี้และเพื่อขยายธุรกิจ

อันดับเครดิตสะท้อนถึงผลงานที่ยาวนานของบริษัทในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนสถานะที่แข็งแกร่งในตลาดบ้านจัดสรรระดับราคาปานกลางถึงสูง และความยืดหยุ่นทางการเงินจากการมีเงินลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง อย่างไร ก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากภาระหนี้ของบริษัทที่อยู่ในระดับค่อนข้างสูง ตลอดจนหนี้ภาคครัวเรือนของประเทศที่อยู่ในระดับสูง และลักษณะของธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยที่เป็นวงจรขึ้นลงและมีการแข่งขันอยู่เสมอ

รายได้ของบริษัทควอลิตี้เฮ้าส์ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560 ลดลง 14.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมาอยู่ที่ 12,980 ล้านบาทเนื่องจากไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการขายบ้านจัดสรรคิดเป็น 79% ของรายได้รวม ส่วนรายได้ที่เหลือมาจากการขายคอนโดมิเนียมและรายได้จากค่าเช่า บริษัทมียอดขายในปี 2560 อยู่ที่ 13,781 ล้านบาท ลดลง 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทไม่มีโครงการคอนโดมิเนียมแห่งใหม่เปิดขาย

บริษัทมีมูลค่ายอดขายบ้านจัดสรรอยู่ในระดับ 13,000-15,000 ล้านบาทต่อปีในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา อัตรากำไรขั้นต้นของโครงการคอนโดมิเนียมในปี 2559 ถึงช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560 อยู่ที่ 26%-27% ลดลงจากระดับ 33%-35% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทเร่งการขายเพื่อระบายสินค้าคงค้าง อัตราส่วนกำไร (อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้) ของบริษัทเท่ากับ 11.86% ในปี 2559 และ 8.07% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560 โดยลดลงจากระดับ 13%-16% ในช่วงปี 2556-2558

อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุน ณ สิ้นเดือนกันยายน 2560 อยู่ที่ 50.13% ลดลงจาก 52.6% ณ สิ้นปี 2559 โดยอัตราส่วนนี้คาดว่าจะอยู่ในช่วง 50%-55% เมื่อพิจารณาจากแผนการเปิดโครงการใหม่ของบริษัทที่มีมูลค่าประมาณ 10,000-15,000 ล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2561-2563

แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนความคาดหวังว่าบริษัทจะยังคงสามารถรักษาสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้ในระยะปานกลาง นอกจากนี้ อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทก็คาดว่าจะอยู่ในระดับต่ำกว่า 55% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจมีการปรับลดลงหากผลการดำเนินงานของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญจากประมาณการของทริสเรทติ้ง หรืออัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนสูงกว่า 60% เป็นเวลานาน ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตอาจมีการปรับเพิ่มขึ้นหากบริษัทสามารถปรับปรุงผลการดำเนินงานให้ดีขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญจากระดับปัจจุบันโดยที่ยังสามารถรักษาระดับอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 50% ได้อย่างต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ