(เพิ่มเติม) CHEWA ตั้งเป้ารายได้ปีนี้กว่า 2.4 พันลบ. โต 20% มีแผนเปิด 7 โครงการใหม่กว่า 5.9 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 19, 2018 15:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ชีวาทัย (CHEWA) ตั้งเป้ารายได้ทั้งปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 2,400 ล้านบาท หรือโตกว่า 20% โดยเตรียมเปิดตัว 7 โปรเจ็กต์ใหม่ทั้งแนวราบ-แนวสูง มูลค่า 5,915 ล้านบาท ขยายแผนการพัฒนาโครงการสู่รอบกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ และหวังเพิ่มสัดส่วนโครงการแนวราบเป็น 40% จากปัจจุบันอยู่ที่ 10%

นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ ของ CHEWA กล่าวว่า รายได้ที่เติบโตในปีนี้ เป็นผลจากการรับรู้รายได้ทั้งหมดของยอดขายรอโอน (Backlog) ที่มีอยู่ประมาณ 1,500 ล้านบาท และมีแผนที่จะเปิดอีก 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 5,915 ล้านบาท โดยเป็นโครงการที่บริษัทดำเนินการเอง 5 โครงการ และโครงการร่วมทุนอีก 2 โครงการ แบ่งเป็น โครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ "ชีวาทัย เรสซิเดนท์" ทองหล่อ (ทองหล่อ 20) จำนวน 155 ยูนิต มูลค่า 954 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเปิดขายในไตรมาส 3/61 และจะสามารถรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/62

โครงการคอนโดมิเนียมโลวไรส์ "ฮอลล์มาร์ค เกษตรนวมินทร์" จำนวน 480 ยูนิต มูลค่า 1,700 ล้านบาท จะเปิดขายในช่วงสิ้นปีนี้ และน่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในอีก 2 ปีข้างหน้า ,โครงการบ้านเดี่ยว "ชีวาวัลย์ พุทธมณฑล สาย 1" จำนวน 53 ยูนิต มูลค่า 1,226 ล้านบาท คาดจะเปิดขายในไตรมาส 4/61 ,โครงการทาวน์โฮม "ชีวา โฮม รังสิต-คลอง 4 ขนาด 275 ยูนิต มูลค่า 700 ล้านบาท คาดจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 3/61 เป็นต้นไป

โครงการทาวน์โฮม "ชีวาโฮม ประชาอุทิศ 90" ขนาด 391 ยูนิต มูลค่า 885 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 3/61,โครงการทาวน์โฮม "ชีวา ฮาร์ท สุขุมวิท" มูลค่า 270 ล้านบาท คาดสิ้นปีนี้จะดำเนินการเปิดขาย และจะสามารถรับรู้รายได้ปีนี้ และโครงการ ทาวน์โฮม "ชีวา ฮาร์ท ทองหล่อ" มูลค่า 270 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดขายสิ้นปีนี้เช่นกัน และน่าจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 2/62

ทั้งนี้ บริษัทวางงบลงทุนปีนี้ไว้ที่ 3,500 ล้านบาท เพื่อใช้ซื้อที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการทั้งคอนโดมิเนียม และแนวราบ จำนวนรวม 6 แปลง และอยู่ระหว่างมองหาที่ดินเพื่อพัฒนาโฮมออฟฟิศ อีก 3-4 แปลง ซึ่งถือว่าเป็นโครงการใหม่ที่บริษัทจะเริ่มดำเนินการ รวมถึงการซื้อที่ดินเพื่อรองรับโครงการร่วมทุนจำนวน 1 แปลง และมองหาที่ดินขนาดใหญ่ เพื่อรอการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่อีกจำนวน 1 แปลง โดยแหล่งเงินลงทุนจะมาจากการกู้ยืมจากสถาบันทางการเงินจำนวน 2,000 ล้านบาท และอีก 1,500 ล้านบาท จะมาจากการออกหุ้นกู้ โดยเมื่อต้นปี 61 บริษัทได้มีการออกหุ้นกู้ไปแล้ว จำนวนไม่เกิน 500 บาท

ขณะที่อยู่ระหว่างศึกษาการใช้เครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ โดยเตรียมเสนอผู้ถือหุ้นพิจารณาและอนุมัติการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 750 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) ในสัดส่วน 1 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยมีราคาเสนอขายหุ้นละ 1.15 บาท และจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนอีก 750 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทรุ่นที่ 1 (CHEWA-W1) จำนวน 750 ล้านหน่วย ที่บริษัทจะจัดสรรให้ฟรีกับผู้ถือหุ้นที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนด้วย

นอกจากนี้บริษัทตั้งเป้าภายใน 3 ปี จะมีสัดส่วนรายได้โครงการคอนโดมิเนียมอยู่ที่ 55% และโครงการแนวราบ 40% และรายได้จากโรงงานอุตสาหกรรมให้เช่าอีก 5% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนคอนโดมิเนียม 90% และแนวราบ 10%

"เรามีแผนที่จะปรับสมดุลของพอร์ต โดย 2-3 ปีข้างหน้า คอนโดมิเนียมจะอยู่ที่ 55% และที่เหลือคือแนวราบ เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงไปยังแนวราบมากขึ้น"นายบุญ ชุน เกียรติ กล่าว

นายบุญ ชุน เกียรติ กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 61 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง หลังได้รับปัจจัยบวกจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการลงทุนโครงการเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐ ทั้งโครงการรถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์ และการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มีความชัดเจนมากขึ้น โดยตลาดที่อยู่อาศัยย่านใจกลางเมือง ยังมีการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ ๆ โดยเฉพาะตามแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเพิ่มมากขึ้น เช่น แอร์พอร์ตลิงค์ และแนวรถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งสายสีเหลือง สีชมพู สีเขียว สีน้ำเงิน เป็นต้น ส่งผลให้ผู้ที่ต้องการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยให้ความสนใจมากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ