SMT วางเป้าดันยอดขายปีนี้โตพุ่ง 40 แตะ 2,500 ลบ.มองผลงานดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ Q2/61

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 26, 2018 13:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพีระพล วิไลวงศ์เสถียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) (SMT) กล่าวถึง แนวโน้มผลประกอบการในปี 61 คาดว่ามีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา เน้นกลยุทธ์ผลิตสินค้าที่มาร์จิ้นสูงเป็นหลัก โดยบริษัทตั้งเป้าหมายของยอดขายไว้ที่ 2,500 ล้านบาท หรือเติบโต 40% ซึ่งเป็นการตั้งเป้าหมายแบบ Conservative

กลยุทธ์ปีนี้เน้นการกระจายตัวยอดขายของแต่ละธุรกิจและกระจายลูกค้ามากขึ้น เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง ทั้งนี้แนวโน้มผลประกอบการจะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ไตรมาส 2/61 เป็นต้นไป เนื่องจากโปรดักต์ต่างๆเริ่มออก โดยไฮไลท์ปีนี้รุกหนักสินค้า IC-packaging , Box Build & PCBA ,Optics และ Solar Panel โดยบริษัทจะเพิ่มยอดขายทั้งจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะสินค้าใหม่ New Products ที่จะเป็นสินค้าตัวนำของปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตถึง 100% อีกทั้งฝ่ายพัฒนาธุรกิจได้เร่งหาลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด 2 เดือนแรกของปีนี้มีลูกค้า IC – packaging ที่กำลังเตรียมจัดทำแบบร่างคุณสมบัติ(Qualificationlot)15แบบซึ่งจะช่วยหนุนให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

อีกทั้งบริษัทพยามเร่งปรับตัวในการลดต้นทุนในการผลิตเพื่อให้ได้อัตรากำไรที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงเลือกที่จะผลิตในสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง มาผลิตสินค้าประเภท high value added เช่น IC Packaging, Wafer dicing, Captive และ Specialty และ Optical Component (เช่น Transceivers 1-2, Active Optical Micro Assembly) รวมทั้งบริษัทยังคงตั้งเป้าที่จะขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น

"ปีที่ผ่านมาเรามีเรื่องที่สะดุดโดยเฉพาะการตั้งสำรองหนี้ให้ถูกต้องตามหลักบัญชีของ Set Top Box และหนี้ของบริษัท 360 Fly เป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการติดตามทวงหนี้ โดยว่าจ้างทนายชื่อดัง หากได้เงินกลับเข้ามาเมื่อไรก็เป็นรายได้ อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่ของผลประกอบการธุรกิจของเราแข็งแกร่งขึ้น เพราะฐานลูกค้าขยายใหญ่ออกไปมีการขยายตัวของสินค้ามากขึ้นในหลายธุรกิจ เป็นการกระจายความเสี่ยงออกไป ไม่อยากผูกกับใครมากเกินไป เพื่อลดการเหวี่ยงของยอดขาย ในปีที่ผ่านมามีการกระจายตัวได้ดีกว่าปีก่อนหน้า และขณะนี้เรากำลังโฟกัสมากในส่วนของธุรกิจ Auto-motive และ Data Center เพราะมาร์จิ้นสูงและมีความมั่นคงในเรื่องของปริมาณความต้องการค่อนข้างสูง"นายพีระพล กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ