หุ้น ABM ปิดเทรดวันแรกที่ 2.04 บาท เพิ่มขึ้น 0.24 บาท (+13.33%) จากราคาขาย IPO ที่ 1.80 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 489.08 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 2.52 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 2.56 บาท และราคาทำระดับต่ำสุด 1.95 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมเบื้องต้นของ ABM ที่ 2.20 บาท (PER 24 เท่าสำหรับปี 2561F) โดยมองว่าการเติบโตของ ABM จะขึ้นอยู่กับอุปสงค์ของโรงไฟฟ้า, โรงงานอุตสาหกรรม และการขยายตลาดในต่างประเทศ เนื่องจากธุรกิจของ ABM เป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรที่ค่อนข้างต่ำทำให้ผลประกอบการจะขึ้นอยู่กับยอดขายเป็นหลัก และเป้าการส่งออกในอนาคตจะเพิ่มขึ้นจากกำลังการผลิตของชีวมวลอัดแท่งที่เพิ่มขึ้นของโรงงานใหม่ นอกจากนี้ ABM เป็นหุ้นที่มี Market Cap ค่อนข้างเล็กทำให้นักลงทุนต้องระมัดระวังสภาพคล่องในการซื้อขาย
บริษัทประกอบธุรกิจจัดหาและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวมวล โดยแบ่งเชื้อเพลิงได้เป็น 5 กลุ่มคือ 1) กะลาปาล์ม ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากกระบวนการสกัดน้ำมันปาล์ม (สัดส่วน 45%) 2) ไม้สับและส่วนอื่นๆ ของไม้ ผลิตภัณฑ์กลุ่มไม้สับได้มาจากกระบวนการตัดและเลื่อยไม้ เช่น โรงเลื่อย โรงงานผลิตไม้สับ โรงงานผลิตไม้แปรรูป และโรงงานเฟอร์นิเจอร์ไม้ (สัดส่วน 25%) 3) ขี้กบ ขี้เลื่อย และฝุ่นไม้ เป็นผลพลอยได้จากการแปรรูปไม้ 4) ชีวมวลอัดแท่ง การนำผลพลอยได้จากการแปรรูปไม้มาผ่านกระบวนการย่อยและลดความชื้นก่อนนำมาอัดแท่งทำให้มีค่าความร้อนเพิ่มขึ้น 5) สินค้าอื่นๆ บริษัทมีการจำหน่ายเชื้อเพลิงอื่นๆ ตามความต้องการของลูกค้า และมียอดขายในประเทศคิดเป็นสัดส่วน 89% โดยมีลูกค้าหลักคือ กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม และโรงไฟฟ้าที่นำไปใช้ผลิตความร้อน
โครงการอนาคต บริษัทมีแผนที่จะขยายกิจการไปยังธุรกิจต้นน้ำของกลุ่มสินค้าไม้แปรรูป เพื่อเป็นการประกันแหล่งผลิตเชื้อเพลิงชีวมวล โดยจะร่วมทุนกับบมจ.แฟนซีวู๊ด อินดัสตรีส (FANCY) โดยบริษัทจะลงทุน 49% เพื่อตั้งโรงงานผลิตชีวมวลอัดแท่ง กำลังการผลิต 1 หมื่นตัน/เดือน ใช้เงินลงทุนไม่เกิน 160 ล้านบาท และใช้เงินกู้ 60% และจะเริ่มดำเนินงานในเชิงพาณิชย์ภายในปี 2561