(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้รีบาวด์ตามตลาดตปท.หลังคลายกังวลสงครามการค้า-ราคาน้ำมันพุ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 6, 2018 09:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ขึ้นตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างรีบาวด์กันหลังคลายความกังวลเกี่ยวสงครามการค้า จากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ มีท่าทีจะเจรจาการค้าใหม่ และราคาน้ำมันก็พุ่งขึ้นด้วยหลังจากที่สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) คาดความต้องการใช้น้ำมันจะเติบโตต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี การรีบาวด์ของตลาดบ้านเราอาจจำกัด เนื่องจากช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ตลาดหุ้นโลกต่างปรับตัวลงแรงจากสงครามการค้า แต่ตลาดบ้านเราปรับตัวลงน้อย ทำให้การรีบาวด์อาจไม่แรงด้วย นอกจากนี้วันนี้มีหุ้นใหญ่หลายตัวขึ้น XD เพื่อจ่ายปันผล อย่างหุ้น PTT, CPN, TU ซึ่งจะมีผลต่อดัชนีฯราว 4 จุด พร้อมให้ติดตามการพิจารณาคดีหงสาในวันนี้ เพราะมีผลต่อ BANPU และ BPP

พร้อมให้แนวรับ 1,800-1,790 จุด ส่วนแนวต้าน 1,820-1,825 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (5 มี.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,874.76 จุด พุ่งขึ้น 336.70 จุด (+1.37%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,720.94 จุด เพิ่มขึ้น 29.69 จุด (+1.10%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,330.70 จุด เพิ่มขึ้น 72.84 จุด (+1.00%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 348.11 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 9.56 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 494.57 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 68.25 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 25.61 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 36.79 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 5.56 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (5 มี.ค.61) 1,808.89 จุด ลดลง 3.09 จุด (-0.17%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 5,072.82 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 มี.ค.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (5 มี.ค.61) ปิดที่ระดับ 62.57
ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.32 ดอลลาร์ หรือ 2.2%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (5 มี.ค.61) ที่ 7.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.38 แนวโน้มแข็งค่าตามทิศทางภูมิภาค หลังมีแรงขายดอลล์
  • "พาณิชย์" สั่ง 4 หน่วยงาน เกาะติดสถานการณ์การค้าโลก หวังรับมือทันท่วงทีหากมีมาตรการใหม่เพิ่มเติม พร้อมเตรียมถก ภาคเอกชนประเมินผลกระทบเหล็กไทย ขณะ "แบงก์ชาติ" หวั่นสงครามการค้า กระทบบรรยากาศค้าขายโลก ห่วงระยะยาวส่งผลโครงสร้างลงทุนเปลี่ยน ภาคธุรกิจเบนเป้าลงทุนสหรัฐแทน ขณะตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่ง กังวลสถานการณ์บานปลาย
  • เลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยจากกรณี ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก (เซฟการ์ด) อัตรา 25% และอะลูมิเนียม 10% นั้น จะส่งผลกระทบทั้งทางตรง คือสูญเสียตลาดส่งออกสินค้าเหล็กในสหรัฐ 3.8 แสนตัน มูลค่า 1.04 หมื่นล้านบาท และทางอ้อม คือสินค้าเหล็กจากทั่วโลก 27.03 ล้านตัน ทะลักเข้าไทยและอาเซียน
  • โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนปรับกลยุทธ์รับมือเงินบาทแข็งพยุงรายได้-กำไร ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ ทยอยทำประกันความเสี่ยงค่าเงิน มองช่วยลดต้นทุน ค่าเครื่องจักร พร้อมออกหุ้นกู้ ล็อกต้นทุนระยะยาว คาดรายได้เติบโต 10-15% ด้านเสริมสร้างพาวเวอร์รับค่าเงินบาทกระทบ พร้อมขยายกำลังผลิตต่างประเทศเพิ่ม
  • แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เผยนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชะลอการดำเนินการเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับการจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ทั้งกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ (ชธ.) และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จนกว่าจะมีความชัดเจนในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี) ซึ่งจะมีการปรับแผนก๊าซให้มีความสอดคล้อง โดยเบื้องต้นทางสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กำลังดำเนินการอยู่ ทั้งนี้ อาจจะส่งผลไปถึงการเจรจาเพื่อจัดหาแอลเอ็นจีสัญญาระยะยาวในโครงการโมซัมบิก ปริมาณ 2.62 ล้านตันต่อปี ที่ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงที่ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ เป็นรัฐมนตรีพลังงานด้วย

*หุ้นเด่นวันนี้

  • PDJ-W2 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.แพรนด้า จิวเวลรี่ PDJ) ครั้งที่ 2) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 25,594,557 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 ปี นับจากวันที่ออกและเสนอขายใบสำคัยแสดงสิทธิ (วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย โดยกำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 7 ก.พ. 2562 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 7 ก.พ. 2562
  • PDJ-W3 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.แพรนด้า จิวเวลรี่ PDJ) ครั้งที่ 3) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน25,594,557 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี นับจากวันที่ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย โดยกำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 7 ก.พ. 2563 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 7 ก.พ. 2563
  • PDJ-W4 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.แพรนด้า จิวเวลรี่ PDJ) ครั้งที่ 4) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน51,190,390 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับจากวันที่ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย โดยวันใช้สิทธิครั้งแรก 7 ก.พ. 2564 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 7 ก.พ. 2564
  • BANPU (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 26 บาท ยังไม่รวมคำตัดสินในวันนี้ซึ่งเชื่อว่ากระทบระยะสั้น โดยศาลฎีกาตัดสินคดีหงสาวันนี้ มองค่อนไปทางบวกที่แรงกดดันราคาหุ้นมานานจะหายไป และกลับมามองพื้นฐานของ BANPU ที่ได้ประโยชน์จากราคาถ่านหินที่อยู่ในระดับสูงเฉลี่ย US$107/ตันตั้งแต่ต้นปี สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 28% และสูงกว่าราคาเฉลี่ยใน 4Q17 8% และมีแนวโน้มสูงต่อไปใน 1H61 เพราะ Supply จำกัดจากการผลิตมีปัญหา แต่ราคาอาจอ่อนตัวลงใน 2H61 คาดกำไรปกตปีนี้ +15% Y-Y เป็น 1.28 หมื่นลบ. ราคาปัจจุบันคิดเป็น PE เพียง 9 เท่า
  • PTTGC (ไอร่า) เป้า 120 บาท คาดปี 61 เติบโตต่อเนื่อง จากแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของราคา HDPE ซึ่งจะเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบและปริมาณความต้องการใช้ที่สูงขึ้นจากจีน ในขณะที่ผลการดำเนินงานของ PTTGC ในปี 60 มีกำไรจากธุรกิจปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์ 66% โดยคาดราคา HDPE ในปี 61 จะยังคงยืนเหนือ 1,300 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ขณะที่ราคา HDPE ล่าสุดมีราคาสูงสุดในรอบ 2 ปี 6 เดือน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ