ทิสโก้ ออกกองทุนทริกเกอร์หุ้นญี่ปุ่นจังหวะดัชนีย่อตัวขณะแนวโน้มศก.ฟื้นต่อเนื่อง เสนอขาย 8-12 มี.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 7, 2018 12:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บลจ.ทิสโก้ เปิดเผยว่า บริษัทออกกองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 5M#1 (TJPT5M1) โดยตั้งเป้าหมายเลิกโครงการที่ 5% ภายในระยะเวลา 5 เดือน หรือ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง เปิดเสนอขายครั้งแรกวันที่ 8-12 มี.ค.61 จับจังหวะดัชนีหุ้นญี่ปุ่นย่อตัวเป็นจังหวะลงทุน เหตุเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทญี่ปุ่นเติบโตโดดเด่น ราคาสมเหตุสมผล

กองทุนดังกล่าวมีความเสี่ยงระดับ 6 เน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี Nikkei 225 และหุ้นที่กำลังจะมาเป็นส่วนประกอบของดัชนี Nikkei 225 ผ่านกองทุนอีทีเอฟ Nikkei 225 Exchange Traded Fund ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้สอดคล้องกับผลการดำเนินงานของดัชนี Nikkei 225 ดังนั้น กองทุนจึงมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมของประเทศญี่ปุ่น มีมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท

นายสาห์รัช กล่าวว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในตลาดที่บลจ.ทิสโก้มองว่าน่าสนใจสำหรับการลงทุนในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจส่งสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังจากมีการดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน รวมถึงรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผลประกอบการบริษัทญี่ปุ่นเติบโตโดดเด่น ขณะที่อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) กลับขึ้นมาอยู่ในระดับเกิน 10% ซึ่งเป็นผลจากนโยบายของนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่หนุนให้บริษัทต้องบริหารเงินให้มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้บริษัทขยายการลงทุน รวมถึงการซื้อหุ้นคืนและจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นมากขึ้น ขณะที่การดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เช่น การกดดอกเบี้ยนโยบายติดลบและดำเนินมาตรการ QE จะยังคงเอื้อต่อการลงทุนในตลาดหุ้น

ในส่วนของราคาหุ้นถือว่ายังอยู่ในระดับที่ไม่แพง เพราะอัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ (P/E) ในปัจจุบันน้อยกว่าค่าเฉลี่ย P/E 10 ปี ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับฐานลงมา ทำให้เป็นโอกาสในการเข้าสะสม

"ตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังซื้อขายที่ระดับ Valuation ที่สมเหตุสมผลกว่าตลาดอื่น โดยราคาต่อมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (P/B) ของดัชนี Nikkei225 ยังอยู่ที่ระดับประมาณ 1.6 เท่า ต่ำกว่าตลาดหุ้นยุโรป (STOXX600) และสหรัฐฯ ซึ่งเทรดที่ P/B ประมาณ 2 เท่า และ 3 เท่า ตามลำดับ นอกจากนี้เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเงินเฟ้อ เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้น BOJ จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องรีบเร่งในการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินให้เข้มงวดมากขึ้นเท่ากับธนาคารกลางอื่นๆ ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกที่คอยสนับสนุนการลงทุนในหุ้นญี่ปุ่น" นายสาห์รัช กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ