ทริสฯ ลดอันดับเครดิตองค์กร BEC เป็น "A" จาก "A+" แนวโน้ม Stable

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 27, 2018 14:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ลดอันดับเครดิตองค์กรของบมจ. บีอีซี เวิลด์ (BEC) มาอยู่ที่ ระดับ "A" จากระดับ "A+" ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" การปรับลดอันดับเครดิตสะท้อนถึงความเข้มแข็งด้านการแข่งขันของบริษัทที่ลดลง รวมทั้งผลประกอบการที่อ่อนแอจากการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมโทรทัศน์/ทีวีในภาวะที่งบใช้จ่ายโฆษณาชะลอตัว รวมถึงพฤติกรรมของผู้ชมที่เปลี่ยนไปบริโภคสื่อออนไลน์มากขึ้น อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงสถานะความเป็นผู้นำในธุรกิจและฐานะการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

การแข่งขันมีความท้าทายมากขึ้น แม้จะเป็นผู้นำในธุรกิจ แต่สถานะทางการแข่งขันที่แข็งแกร่งของบริษัทได้ถูกท้าทายจากทีวีดิจิตอลและการรับชมรายการผ่านสื่อออนไลน์ (Over-the-Top -- OTT) ที่ทำให้การรับชมและส่วนแบ่งรายได้ค่าโฆษณากระจายตัวจากผู้ประกอบการกลุ่มเดิม ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลบางราย เช่น เวิร์คพอยท์ทีวี โมโน ช่อง 8 หรือช่องวัน ต่างก็ประสบความสำเร็จในการผลิตหรือจัดหารายการที่เป็นที่นิยมและดึงดูดเม็ดเงินโฆษณา ทริสเรทติ้งมองว่าการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมจะยังคงดำเนินต่อไป

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องพฤติกรรมของผู้บริโภคที่นิยมการรับชมรายการผ่านช่องทาง OTT มากขึ้น แม้ว่าบริษัทได้ปรับตัวและแพร่ภาพรายการผ่านช่องทางการรับชมทางออนไลน์ต่าง ๆ แต่รายได้ที่ได้รับจากช่องทางเหล่านี้น้อยกว่ารายได้ที่ลดลงจากธุรกิจทีวีของบริษัทในเวลาที่งบใช้จ่ายโฆษณาอ่อนตัวลง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะยังคงกดดันผลการดำเนินงานของบริษัทต่อไป

ผู้โฆษณาจะยังคงระมัดระวังในการใช้จ่ายโฆษณา

ผลการดำเนินงานของบริษัทขึ้นอยู่กับงบใช้จ่ายโฆษณาเป็นอย่างมาก โดยทั่วไปงบโฆษณาสำหรับทุกสื่อจะแปรผันไปตามภาวะเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวรวมถึงช่วงเวลาของการถวายความอาลัยต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ส่งผลให้ผู้โฆษณาลดงบใช้จ่ายโฆษณาลง จากข้อมูลของสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทยและ บริษัท นีลเส็น (ประเทศไทย) จำกัด พบว่าค่าใช้จ่ายโฆษณารวมทุกสื่อลดลง 17% จาก 1.22 แสนล้านในปี 2558 เหลือ 1.02 แสนล้านในปี 2560

จากภาวะเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ดีขึ้นคาดว่าจะส่งผลดีต่องบใช้จ่ายโฆษณาอย่างไรก็ดี ทริสเรทติ้งมองว่าผู้โฆษณาจะยังคงระมัดระวังในการใช้จ่าย จากภาวะความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้รายได้ของผู้ประกอบธุรกิจทีวีเติบโตได้ช้า

ผลการดำเนินงานอ่อนแอลง

ผลการดำเนินงานของบริษัทอ่อนแอลงในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมาจากการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมรวมทั้งภาวะชะลอตัวของการใช้จ่ายโฆษณา รายได้ของบริษัทลดลงจาก15,845 ล้านบาทในปี 2558 มาอยู่ที่ 11,035 ล้านบาทในปี 2560 เนื่องจากต้นทุนในการดำเนินงานของบริษัทส่วนใหญ่เป็นต้นทุนคงที่ รายได้ที่ลดลงจึงส่งผลโดยตรงต่ออัตรากำไรและกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน เงินทุนจากการดำเนินงานลดลงจาก 3,747 ล้านบาทในปี 2558 มาอยู่ที่ 1,107 ล้านบาทในปี 2560 (ในการวิเคราะห์ของทริสเรทติ้ง ค่าตัดจำหน่ายลิขสิทธิ์รายการทีวีจะคิดเป็นต้นทุนในการดำเนินงานของบริษัทตามลักษณะของธุรกิจ)

แม้ได้คำนึงถึงผลจากช่วงถวายความอาลัยแล้ว ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2560 ต่ำกว่าที่ทริสเรทติ้งคาดไว้เป็นอย่างมาก ซึ่งสะท้อนถึงสถานะทางการแข่งขันที่อ่อนตัวลงของบริษัทในการดึงดูดผู้ชมและส่วนแบ่งรายได้โฆษณา ทริสเรทติ้ง มองว่าบริษัทจะยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้น และกดดันผลการดำเนินงานของบริษัท ภายใต้สมมติฐานพื้นฐานของทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของบริษัทจะใกล้เคียงกับปีก่อนหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปี 2561-2563 และมีเงินทุนจากการดำเนินงาน 1,200-1,700 ล้านบาทในช่วงดังกล่าว

ฐานะการเงินแข็งแรง

สถานะการเงินของบริษัทได้รับการสนับสนุนจากฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง โครงสร้างเงินทุนและสภาพคล่องของบริษัทยังคงอยู่ในระดับดีแม้ผลการดำเนินงานของบริษัทอ่อนตัวลง ณ สิ้นปี 2560 บริษัทมีอัตราส่วนเงินกู้รวม (รวมภาระผูกพันของบริษัทที่จะต้องชำระค่าใบอนุญาตประกอบการทีวีดิจิตอล) ต่อโครงสร้างเงินทุนอยู่ที่ 45.19% ขณะที่รายได้ที่ลดลงส่งผลให้อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมของบริษัทในปี 2560 ลดลงมาอยู่ที่ 8.71% เทียบกับ 35.40% ในปี 2559 ทั้งนี้ คาดว่าอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมของบริษัทจะอยู่ที่ระดับ 25%-35% ในปี 2561-2563

มีสภาพคล่องสูง

ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะดำรงสถานะสภาพคล่องให้อยู่ในระดับที่ดีได้ต่อไปในระยะ 12 เดือนข้างหน้าโดยพิจารณาจากแหล่งที่มาและแผนการใช้เงินทุนของบริษัท ภายใต้สมมติฐานของทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีเงินทุนจากการดำเนินงานอย่างน้อย 1,200 ล้านบาทต่อปีและมีเงินสดและเทียบเท่าเงินสด ณ สิ้นปี 2560 อีกจำนวน 1,121 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีแผนลงทุนประมาณ 85-100 ล้านบาทต่อปี และมีภาระต้องชำระค่าใบอนุญาตทีวีดิจิตอลรวม 546 ล้านบาทต่อปีในปี 2561 อย่างไรก็ดี สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) อยู่ในระหว่างนำเรื่องเสนอรัฐบาลให้มีการพักชำระค่าใบอนุญาตทีวีดิจิตอลระหว่างปี 2561-2563 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนถึงความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถดำรงสถานะผู้นำทางธุรกิจและฐานะการเงินที่แข็งแกร่งได้ต่อไป

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

โอกาสในการปรับเพิ่มอันดับเครดิตของบริษัทจะมีปัจจัยสนับสนุนจากการที่สถานะทางการแข่งขันของบริษัทมีความแข็งแกร่งมากขึ้น และผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก ในขณะที่ปัจจัยกดดันต่อการปรับลดอันดับเครดิตของบริษัทอาจเกิดขึ้นได้หากผลประกอบการของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญทั้งจากภาวะซบเซาอย่างต่อเนื่องของงบโฆษณาหรือจากการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ