นายวิรัตน์ เอื้อนนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บมจ.ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า ปตท.ได้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการทำสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในปริมาณ 2.6 ล้านตัน/ปี เป็นเวลา 20 ปี จากโครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน ให้กับกระทรวงพลังงานพิจารณาเพื่อให้ความเห็นชอบแล้ว
ทั้งนี้ ปตท.เชื่อว่าจะช่วยเสริมความมั่นคงด้านพลังงาน ซึ่งการเข้าทำสัญญาดังกล่าวในช่วงนี้เห็นว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมเพราะตลาดยังเป็นของผู้ซื้อในช่วงไม่เกิน 5 ปีจากนี้ อีกทั้งยังมีเงื่อนไขการซื้อขายที่ดีกว่าการทำสัญญาซื้อขาย LNG ที่เคยทำมา โดยมีสูตรราคาซื้อขายที่อิงทั้งราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โดยปตท.คาดหวังว่าจะสามารถลงนามสัญญาซื้อขายได้ภายในปีนี้
ขณะที่โครงการดังกล่าวมี บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ถือหุ้น 8.5% และคาดว่าจะสามารถตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) ได้ในปี 61 และเริ่มผลิต LNG ได้ในช่วงปี 67-68
"กระทรวงให้การสนับสนุนเพียงแต่รอกระบวนการต่าง ๆ จริง ๆ โมซัมบิก ราคา competitive มาก เป็นโครงการที่ยังไม่ได้เริ่ม แต่เมื่อโครงการเสร็จเชื่อว่าราคาก๊าซฯอาจจะแพงขึ้น โดยเฉลี่ยช่วงนี้ไม่ใช่ช่วง LNG ราคาแพง แต่ก่อนราคากว่า 10 เหรียญฯ/ล้านบีทียู แต่เมื่อปีที่แล้วราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 6-7 เหรียญฯ/ล้านบีทียูเท่านั้น ก็ถือว่าเป็นตลาดของผู้ซื้อ การที่เราเข้าไป lock in ระยะยาวก็จะเป็นผลดีกับผู้ซื้อ เพราะช่วงเวลาตอนรับก๊าซฯตลาดก็น่าจะเป็นของผู้ขาย"นายวิรัตน์ กล่าว
นายวิรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้ ปตท.ยังไม่สามารถประเมินภาพความต้องการใช้ LNG ได้ชัดเจนเหมือนในอดีตที่ ปตท.เป็นคนจัดหาก๊าซธรรมชาติเพียงรายเดียว แต่ขณะนี้ตลาดเริ่มเปิดเสรีมากขึ้นทำให้ภาพรวมยังอยู่ในช่วงการปรับตัว ประกอบกับยังต้องรอความชัดเจนจากแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาว ( PDP) ใหม่ที่รัฐบาลอยู่ระหว่างทบทวนด้วย
อย่างไรก็ตาม ปตท.ก็ยังเตรียมความพร้อมในการจัดหา LNG ให้เพียงพอกับความต้องการใช้ในประเทศด้วย โดยอยู่ระหว่างศึกษาการสร้างคลัง LNG ในรูปแบบเรือลอยน้ำ FSRU (Floating Storage Regisification Unit) ในเมียนมา เพื่อนำ LNG เข้ามาใช้ในประเทศเสริมความมั่นคงก๊าซฯจากฝั่งตะวันตกของไทย แต่การศึกษาก็ไม่ได้เร่งด่วนเพราะภาพใหญ่ยังต้องรอความชัดเจนจาก PDP ใหม่ที่จะออกมาด้วย
ขณะเดียวกัน ปตท.ก็มีความพร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลจัดหา LNG ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้รับอนุมัติให้เป็นผู้ดำเนินการจำนวน 1.5 ล้านตัน/ปีในปีนี้ โดยคาดว่า กฟผ.จะเปิดประมูลเป็นคาร์โก้ และการที่จะมีผู้ประกอบการรายอื่นให้ความเข้าใจเข้าร่วมประมูลด้วยนั้นก็เชื่อว่าจะเป็นผลดีเพราะทำให้มีการแข่งขันที่สมบูรณ์มากขึ้น
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานของ ปตท.ในปีนี้เชื่อว่าจะยังอยู่ในลักษณะค่อนข้างดี โดยธุรกิจก๊าซธรรมชาติยังค่อนข้างคงที่ ขณะที่บางส่วนของธุรกิจอื่น ๆ อาจจะอ่อนตัวลงมาก หลังจากที่ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมานับว่าดีทุกธุรกิจของปตท.ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ทั้งธุรกิจปิโตรเลียม ,ค่าการกลั่น ของโรงกลั่นน้ำมัน ,ส่วนต่าง (สเปรด) ของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี