ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,724.98 จุด ลดลง 40.26 จุด(-2.28%) มูลค่าการซื้อขาย 93,160.59 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,771.58 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,724.90 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 265 หลักทรัพย์ ลดลง 1,270 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 246 หลักทรัพย์
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลง ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สร่วงไปกว่า 400 จุดบ่ายนี้ แม้แต่ตลาดยุโรปก็ปรับตัวลงราว 0.5-1% หลังจากจีนประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯอีก 106 รายการใน 14 หมวดสินค้า ทำให้ภาคบ่ายตลาดบ้านเราปรับตัวลงมากกว่าช่วงเช้า เนื่องจากกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
นอกจากนั้น ตลาดหุ้นไทยยังได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ปรับลงมาก หลังจากธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ลดประมาณการรายได้ค่าธรรมเนียมลงหลังจากใช้กลยุทธ์ยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมธุรกรรมผ่านออนไลน์ ซึ่งให้นักลงทุนวิตกว่าแบงก์อื่น ๆ ก็อาจจะต้องปรับลดประมาณการตามไปด้วย นอกจากนี้ ตลาดบ้านเรายังมีประเด็นเฉพาะกลุ่ม อย่างเช่น กลุ่มโรงกลั่น, โรงไฟฟ้า เป็นต้น
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (5 เม.ย.) นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดฯอาจจะแกว่งซึมลง ทิศทางดัชนีฯคงจะเป็นลักษณะแกว่ง Sideway ถึง Sideway Down เพื่อรอดูพัฒนาการของข่าวต่าง ๆ และรอติดตามทิศทางตลาดสหรัฐฯในคืนนี้ด้วย โดยมองว่าเดือนนี้ตลาดฯคงจะยังผันผวนต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนจะถ่วงในแง่ Sentiment
พร้อมให้แนวรับ 1,720 จุด ส่วนแนวต้าน 1,750-1,755 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 8,641.21 ล้านบาท ปิดที่ 532.00 บาท ลดลง 14.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,939.22 ล้านบาท ปิดที่ 195.50 บาท ลดลง 16.50 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 4,914.43 ล้านบาท ปิดที่ 7.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท
EA มูลค่าการซื้อขาย 4,405.36 ล้านบาท ปิดที่ 32.75 บาท ลดลง 1.25 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,939.80 ล้านบาท ปิดที่ 68.50 บาท ลดลง 1.00 บาท