บริษัท ซีมายน์ โฮลดิ้ง ลิมิเต็ด ผู้ประกอบธุรกิจขุดเหรียญดิจิทัล ร่วมเป็นพันธมิตรกับ บริษัท เอสเทรค (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าการ์ดจอรายใหญ่ของไทย เพื่อเตรียมระดมทุนจากประชาชนทั่วไปครั้งแรก (Initial Coin Offering:ICO) โดยการออกเหรียญดิจิทัล ZMN จำนวน 100 ล้านโทเคน เพื่อเสนอขายแก่ผู้สนใจทั่วโลกในราคาเริ่มต้น 575 ดอลลาร์ต่อ 10,000 ZMN โทเคน โดยเริ่มจำหน่ายวันแรก 2 พ.ค.จนถึง 31 พ.ค.นี้ คาดว่าจะได้รับเงินจากการระดมทุนราว 5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 150 ล้านบาท
เงินที่ได้จากการออก ICO จะนำไปใช้ขยายธุรกิจ แบ่งเป็น 80% จะไปจัดซื้ออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการขุดเหรียญดิจิทัล ได้แก่ การ์ดจอ ซีพียู แรม เมนบอร์ด ฮาร์ดดิสก์ อุปกรณ์จ่ายไฟ และอุปกรณ์เชื่อมต่อที่เกี่ยวข้อง ส่วนที่เหลือจะนำไปใช้ในการวิจัยและพัฒนาโปรแกรมและระบบต่าง ๆ เพื่อให้ระบบสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงลงทุนในด้านการตลาดเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับโทเคน
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนพัฒนาระบบการตลาดสำหรับลูกค้าและผู้ลงทุนโทเคน โดยมีแผนจะเปิดตลาดซื้อขายการ์ดจอ เพื่อให้ผู้ที่ลงทุนในการ์ดจอสามารถขายการ์ดจอด้วย ZMN โทเคนระหว่างกันเองได้ภายในเว็บและแพลตฟอร์มที่รองรับ รวมไปถึงการนำ ZMN โทเคนเข้าจดทะเบียนในตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิทัลอีกด้วย
ทั้งนี้ บริษัทสร้าง ZMN โทเคนขึ้นมาจำนวน 1,000 ล้านโทเคน โดยแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกจำนวน 500 ล้านโทเคน นำมาจัดสรรให้แก่ผู้ที่สนใจ และบางส่วนนำไปใช้ในการดำเนินงานของบริษัทฯ ดังนี้ 1. เสนอขาย Pre-sale จำนวน 100 ล้านโทเคน 2. เสนอขาย Private-sale จำนวน 100 ล้านโทเคน 3. เสนอขาย Public-sale จำนวน 150 ล้านโทเคน 4. จำนวน 75 ล้านโทเคนจะถูกล็อคไว้ ไม่สามารถนำมาใช้งานได้ จนกว่าจะครบระยะเวลาที่กำหนด และ 5.จำนวน 75 ล้านโทเคนจะถูกนำมาใช้ในการดำเนินการของบริษัท เพื่อให้การออก ICO เป็นไปตามแผนการ
ส่วนที่สองจำนวน 500 ล้านโทเคน จะถูกล็อคไว้ หลังจากนั้น บริษัทจะให้ผู้ถือเหรียญ ZMN ในระบบทำการโหวตผ่านระบบ Smart Vote บน Ethereum Network ในวันที่ 1 พ.ค.62 ว่าต้องการนำเหรียญจำนวนนี้กลับมาจำหน่ายอีกครั้งหรือไม่ แต่หากมีผู้ร่วมโหวตต่ำกว่าครึ่ง โทเคนทั้งหมดก็จะถูกทำลายทิ้งทันที
นายกษมพัทธ์ วิธานวัฒนา ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีมายน์ โฮลดิ้ง ลิมิเต็ด (ZMINE Holdings Limited) เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้ประกอบธุรกิจขุดเหรียญดิจิทัลภายใต้โมเดลเช่าหน่วยประมวลผลกราฟฟิค หรือ การ์ดจอ (We Rent Your Graphic Cards: WRYGC) เพื่อขุดเหรียญสกุลดิจิทัล โดยมีทีมงานที่เริ่มทำการขุดเหรียญตั้งแต่ปี 57 ต่อมาได้ออกแผนธุรกิจเช่าหน่วยประมวลผลกราฟฟิค (WRYGC) เพื่อให้บุคคลภายนอกนำหน่วยประมวลผลกราฟฟิค (GPU) มาให้บริษัทเช่าไปขุดเหรียญ
ปัจจุบัน บริษัทมีหน่วยประมวลผลกราฟฟิคภายใต้การควบคุมประมาณ 8,000 การ์ด มูลค่ารวม 120 ล้านบาท
"เหรียญดิจิทัล ZMN ก็มีผลตอบแทนที่น่าดึงดูดผู้ลงทุน แบ่งเป็นผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าการ์ดจอ โดยนักลงทุนที่ถือเหรียญ ZMN สามารถนำมาใช้แลกซื้อการ์ดจอของซีมายน์เพื่อปล่อยเช่าให้แก่บริษัทฯ และผลตอบแทนจากการขายคืนเหรียญ ZMN ให้บริษัทฯ อีกด้วย โดยบริษัทมีแผนจะนำกำไรจากผลประกอบการมาซื้อเหรียญดิจิทัล ZMN คืนและนำออกจากระบบ (Buy Back and Burn) ทุกเดือน เพื่อลดอุปทานแก่โทเคน"นายเกษมพันธ์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนพัฒนาระบบและการตลาดสำหรับลูกค้าและผู้ลงทุนในโทเคน โดยมีแผนที่จะเปิดตลาดซื้อขายการ์ดจอ (Marketplace) เพื่อให้ผู้ที่ลงทุนในการ์ดจอสามารถขายการ์ดจอด้วย ZMN โทเคน ระหว่างกันเองได้ภายในเว็บและแพลตฟอร์มที่รองรับ รวมไปถึงนำ ZMN โทเคน เข้าจดทะเบียน ในตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิทัลอีกด้วย
ด้านนายวันสฤษดิ์ เขียววิมล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี ซีมายน์ โฮลดิ้ง กล่าวว่า บริษัทมีทีมผู้บริหารที่เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์ที่สนใจเทคโนโลยีการเข้ารหัส (Encryption) และการถอดรหัส (Decryption) บวกกับประสบการณ์การขุด และการวิจัยพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้ซีมายน์สามารถพัฒนาระบบ เพื่อใช้ในการขุดเหรียญ ดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจากสถิติที่ผ่านมา 9 เดือน ธุรกิจ WRYGC โอนเหรียญบิทคอยน์ที่ได้จากกระบวนการขุด คืนให้แก่ลูกค้าไปแล้วมากกว่า 213 บิทคอยน์
สำหรับเงินที่ได้รับจากการระดมทุนผ่าน ICO นั้น บริษัท เอสเทรค (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของซีมายน์ และเป็นตัวแทนการจัดจำหน่ายหน่วยประมวลผลกราฟฟิคที่สุดในประเทศไทย จะเป็นผู้เจรจากับโรงงานผู้ผลิตการ์ดจอ เพื่อให้ซีมายน์ได้รับการ์ดจอตามที่คาดการณ์ภายใต้รุ่นและราคาที่เหมาะสม