STEC เผยม.ค.-เม.ย.61 มีงานใหม่แล้ว 2.7 หมื่นลบ.ดัน Backlog เพิ่มเป็น 1.3 แสนลบ., เตรียมยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายรัฐสภาใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 30, 2018 17:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) กล่าวในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 ว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงล่าสุด บริษัทได้งานใหม่ที่เซ็นสัญญาเข้ามาอีก 2.74 หมื่นล้านบาท จาก 4 โครงการ ทำให้งานในมือ(Backlog) เพิ่มขึ้นเป็น 1.31 แสนล้านบาท จากสิ้นปี 60 มีงานในมือ 1.03 แสนล้านบาท

ทำให้คาดว่าในปีนี้บริษัทจะรับรู้รายได้จากงานก่อสร้างราว 2.5 หมื่นล้านบาท และปีหน้าเพิ่มขึ้นมาที่ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ตามความก้าวหน้าของงาน เทียบกับปี 60 มีรายได้จากการก่อสร้างที่ 2 หมื่นล้านบาท

"ผมยืนยันได้ว่ารายได้ปีนี้น่าจะอยู่ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปี 60 ประมาณ 25-30% เชื่อว่าเติบโตก้าวกระโดด"นายภาคภูมิ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในงานก่อสร้างอาคารัฐสภาแห่งใหม่และอาคารประกอบ มูลค่าโครงการ 11,477 ล้านบาท เพื่อชดเชยจากการที่รัฐสภาได้ขยายเวลาการดำเนินงานก่อสร้างอีก 1,482 วัน หรือเพิ่มเป็น 6 ปี จากเดิมใช้เวลา 2 ปีครึ่ง หรือ 900 วัน หลังไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ได้ตามกำหนดเวลา

"งานก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ตามกำหนดงานใช้เวลา 900 วัน ถ้าขยายต่อ 100-200 วัน ก็ถือว่าปกติ แต่จากสาเหตุความล่าช้าการส่งมอบพื้นที่เป็น ขยายงาน 1,482 วัน บริษัทเห็นว่าไม่ใช่เรื่องปกติ เป็นเพราะความไม่เอาใจใส่ของทางรัฐสภา ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย บริษัทกำลังทำเรื่องเรียกค่าเสียหายจากรัฐสภา"นายภาคภูมิ อธิบายต่อผู้ถือหุ้น

ทั้งนี้ งานก่อสร้างรัฐสภาใหม่จะมีกำหนดการแล้วเสร็จ 15 ธ.ค. 62 หลังขยายเวลาการดำเนินงาน โดยบริษัทได้ตั้งสำรองผลขาดทุนของโครงการนี้จนถึงวันที่งานแล้วเสร็จเป็นเงินประมาณ 2.6 พันล้านบาท และยังมีการสำรองผลขาดทุนโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารต่างประเทศหลังใหม่ และการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารหลังเดิม ของท่าอากาศยานภูเก็ตของบมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) จำนวน 300 ล้านบาทโดยงานนี้ได้แล้วเสร็จในเดือนเม.ย.นี้ ทั้งนี้จากการสำรองในครั้งเดียวทำให้บริษัทประสบผลขาดทุนในปี 60 ราว 611 ล้านบาท

ด้านนายชำนิ จันทร์ฉาย ประธานกรรมการตรวจสอบ STEC กล่าวเสริมในที่ประชุมผู้ถือหุ้นว่า ในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบได้ให้นายวัลลภ รุ่งกิจวรเสถียร ประธานกรรมการบริหารเข้ามาดูโครงการที่บริษัทรับงานมาอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนงานก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่

"การตั้งสำรองครั้งเดียวก็เจ็บครั้งเดียว ไม่ต้องทยอยเจ็บ... บริษัทน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น และอยากให้ฝ่ายบริหารอย่าติดกับดัก Backlog แสนกว่าล้านบาท"นายชำนิ กล่าว

นายวัลลภ กล่าวถึงข้อเสนอโครงการซื้อหุ้นคืนว่า จะนำไปเสนอคณะกรรมการบริษัทฯ เพื่อพิจารณาต่อไป ขณะเดียวกันกระแสเงินสดที่บริษัทฯ มีอยู่เตรียมไว้สำหรับการลงทุนที่ขณะนี้มีโอกาสเข้ามาต่อเนื่อง

สำหรับในปี 61 คาดว่าภาครัฐจะมีงานประมูลราว 2 ล้านล้านบาท โดยเป็นงานประมูลงานก่อสร้าง 1.1 ล้านล้านบาท และงานประมูลแบบให้เอกชนร่วมลงทุน (PPP) ราว 9 แสนล้านบาท โดยหนึ่งในนั้นมีโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่ STEC ร่วมเป็นพันธมิตรกับบมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ซึ่งโครงการนี้มีมูลค่างานก่อสร้าง 1.2 แสนล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ