(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์รอผลประชุมเฟด หวั่นเจอแรงกดดันหลังราคาน้ำมันร่วง ,เกาะติดบจ.ประกาศงบฯ Q1/61

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 2, 2018 09:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ รอผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แต่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงมาพอควรเมื่อวานนี้อาจกดดันดัชนีฯได้ เนื่องจากการผลิตน้ำมันต่อวันของสหรัฐฯได้ปรับตัวขึ้นมาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้เกิดความกังวล Supply จะมากและไปกดดันราคาน้ำมันให้ปรับตัวลง

นอกจากนี้ ก็จะต้องจับตาสหรัฐฯจะมีการคว่ำบาตรอิหร่านหรือไม่ ถ้าสหรัฐฯมีการคว่ำบาตร อิหร่านก็จะส่งออกน้ำมันไม่ได้ ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ

สำหรับบ้านเราให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 1/61 เป็นหลัก แม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อของไทยเมื่อวานนี้ประกาศออกมาจะสูง แต่ก็ไม่น่าจะมีผลอะไร เพราะไทยคงจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

พร้อมให้แนวรับ 1,774 จุด ส่วนแนวต้าน 1,790 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (1 พ.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,099.05 จุด ลดลง 64.10 จุด (-0.27%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,654.80 จุด เพิ่มขึ้น 6.75 จุด (+0.25%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,130.70 จุด เพิ่มขึ้น 64.44 จุด (+0.91%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 60.16 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 5.18 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 26.24 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 7.64 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 0.37 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 10.27 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 10.91 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 27.62 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 4.76 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (30 เม.ย.61) 1,780.11 จุด เพิ่มขึ้น 2.09 จุด (+0.12%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,681.01 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 เม.ย.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (1 พ.ค.61) ปิดที่ระดับ 67.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.32 ดอลลาร์ หรือ 1.9%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (1 พ.ค.61) ที่ 7.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.68/70 แนวโน้มอ่อนค่า นลท.จับตาผลประชุมเฟด-ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ
  • ตลาดจับตา"บอนด์ยีลด์" ระยะสั้นพุ่ง หลัง"แบงก์ชาติ"เพิ่มวงเงินประมูลพันธบัตร 2 รุ่น อายุ 3 และ 6 เดือน ด้าน"วิรไท"ส่งสัญญาณภาวะเจเคิร์ฟทยอยหายไป ลดการบิดเบือนตลาดบอนด์ ขณะ ไทยบีเอ็มเอ"ชี้เป็นเรื่องดี หนุนตลาดกลับสู่สมดุล เผยที่ผ่านมาผลตอบแทน ถูกกดต่ำกว่าดอกเบี้ยนโยบาย
  • "พาณิชย์"เผยเงินเฟ้อเม.ย.พุ่งแตะ 1.07% สูงสุดรอบ 14 เดือน ผลจากราคาน้ำมัน ผักสด เร่งตัวขึ้น สะท้อนกำลังซื้อเริ่มฟื้น ยืนยันขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ไม่กระทบราคาสินค้า มั่นใจทั้งปียืนเหนือ 1% ด้านนักวิเคราะห์ประเมินแนวโน้มเร่งตัวขึ้นช่วงครึ่งปีหลัง กดดัน ธปท.ขึ้นดอกเบี้ยปลายปีนี้
  • เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา นายโทชิมิตสึ โมเทกิ รัฐมนตรีประจำสำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้มาหารือถึงข้อตกลงความครอบคลุมและก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนการค้าภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก (ซีพีทีพีพี) หรือทีพีพี เดิมที่ขณะนี้ญี่ปุ่นได้เข้ามาเป็นผู้นำการเจรจาแทนสหรัฐที่ถอนตัวออกไป ซึ่งรัฐบาลไทยและนายกรัฐมนตรียืนยันว่าจะเข้าร่วมข้อตกลงดังกล่าวนี้อย่างแน่นอน
  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้าย ฤดูกาลผลิตปี 2559/2560 อัตราเฉลี่ยทั่วประเทศในอัตราตันอ้อยละ 1,083.86 บาท ณ ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส. โดยให้หักเงินเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย ตามสัดส่วน 70:30 ในอัตราตันละ 5 บาท เป็นส่วนของชาวไร่อ้อยที่ 3.50 บาท/ตันอ้อย และส่วนของโรงงานน้ำตาล 1.50 บาท/ตันอ้อย
  • ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงานการปรับพาร์ของ บริษัทจดทะเบียนจากต้นปี-20 เม.ย.2561 พบว่า มีบริษัทที่ปรับเปลี่ยนพาร์ 13 บริษัท เพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 8 บริษัท ได้แก่บริษัท ซีพีแอล กรุ๊ป หรือ CPL ปรับราคาพาร์จาก 10 บาท มาอยู่ที่ 1 บาท บริษัท ปตท. หรือ PTT ปรับพาร์จาก 10 บาท เหลือ 1 บาท บริษัท ศิครินทร์ หรือ SKR ปรับพาร์จาก 6.50 บาท เป็น 0.50 บาท
  • บอร์ด ทอท.ไฟเขียวรับโอนย้าย 4 สนามบินจากท่าอากาศยานไทย เตรียมใช้งบลงทุน 1.2 แสนล้านบาท ผุดสนามบินแห่งที่ 2 ที่เชียงใหม่ และภูเก็ต รองรับนโยบายเมืองรอง และจำนวนผู้โดยสาร 20 ล้านคน/ปี ลุ้นบอร์ดไฟเขียว 25 พ.ค.นี้

*หุ้นเด่นวันนี้

  • HTC (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 35 บาท ราคาหุ้นลดลงแรงมากเกินไปกังวลงบ Q1/61 พลาดเป้า แต่เป็นแค่การเลื่อนรับรู้ผลบวกจากราคาน้ำตาลในประเทศที่ลดลงจาก Q1/61 ไปเป็น Q2/61 ส่งผลให้ภาพรวมทั้งปีกำไรยังคงเดิมโดยปีนี้คาดกำไรสุทธิประมาณ 384 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% yoy
  • CHG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 2.50 บาท ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรทั้งใน Q1/61 ที่คาดเติบโตดีจากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นตามโรคระบาด และทั้งปี 2561 ที่คาด +15% Y-Y เป็น 650 ล้านบาท จากรายได้ที่โตในอัตราเร่งและ Margin ที่จะขยายตัวหลังจากผ่านช่วงลงทุนใหญ่ไปแล้ว ด้านราคาหุ้น Outperform กลุ่มตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา แต่ยัง laggard เมื่อเทียบตั้งแต่ต้นปี โดย -7% YTD กลุ่ม +4% YTD
  • AOT (เออีซี) "ซื้อ"เป้า 80 บาท ช่วง Q2/60-61 คาดกำไรโต 14.1%YoY จากแนวโน้มสดใสของตัวเลขสถิติการบินส่วนปี 60/61- ปี 61/62 คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ 23.7% จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่ยังสดใสหนุนให้นักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลมาไทยเพิ่มขึ้น และมี Upside 12.3% และคาดให้ Div.Yield เฉลี่ยปีละ 1.86%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ