NPP คาดปีนี้พลิกกำไร พร้อมเตรียม M&A แบรนด์อาหารไทยก่อนบุกตลาดจีน, เล็งส่งธุรกิจบรรจุภัณฑ์เข้าตลาดหุ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 3, 2018 13:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศุภจักร ไตรรัตโนภาส ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอ็นพีพีจี (ประเทศไทย) (NPP) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้บริษัทคาดว่าจะพลิกมีกำไรสุทธิ จากขาดทุนสุทธิ 367.67 ล้านบาทในปีที่แล้ว ตามรายได้ที่ตั้งเป้าเติบโต 15-20% มาที่ 1.3-1.4 พันล้านบาท จากระดับ 1.18 พันล้านบาทในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการเติบโตจากธุรกิจเดิม ทั้งอาหาร และบรรจุภัณฑ์ ไม่รวมแผนการขยายธุรกิจในปีนี้ โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอาหาร 55% และบรรจุภัณฑ์ 45%

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะเข้าซื้อกิจการแบรนด์ธุรกิจอาหารในไทย เพื่อนำไปเปิดขายแฟรนไชส์ในประเทศจีน โดยอยู่ระหว่างการพิจารณา 3-4 แบรนด์ คาดได้ข้อสรุปภายในเดือน พ.ค. ก่อนที่จะนำผลิตภัณฑ์ของไทยเข้าไปขายแฟรนไชส์ในจีนด้วย ขณะที่ตลาดจีนมีความสนใจอาหารและสินค้าของไทยค่อนข้างมาก ก็จะช่วยผลักดันรายได้ของบริษัทได้ดีในอนาคต โดยคาดว่าในปี 62 สัดส่วนรายได้จากธุรกิจอาหารจะเพิ่มขึ้นได้ถึง 80% และธุรกิจอาหารจะเป็นธุรกิจหลักของบริษัทเต็มตัว

ส่วนธุรกิจบรรจุภัณฑ์ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในต่างประเทศ 2 รายเพื่อร่วมจำหน่ายสินค้า โดยในธุรกิจนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ที่จะแยกตัวออกมาเพื่อนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หรืออาจจะแยกออกไปเป็นธุรกิจนอกตลาด ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ และอาจนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นได้ในปี 62

สำหรับบริษัท สยาม เกตเวย์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับบมจ.ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ (TACC) ที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่เพื่อดำเนินธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ (International Trading Business) นั้นคาดว่าจะมีรายได้ถึง 1 พันล้านบาท ในปี 62 โดยขณะนี้บริษัทได้เจรจาจะนำแบรนด์สินค้ามาบริหารการจำหน่าย 3-4 แบรนด์ และอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรเพื่อหาช่องทางจัดจำหน่ายในจีน 15 ราย เบื้องต้นนโยบายบริษัทจะมีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ย 15-20% ซึ่งประเมินว่าในอนาคตจะมีการเติบโตอย่างมาก เพราะธุรกิจเจาะตลาด Blue Ocean ที่มีศักยภาพในการเติบโต ทั้งนี้ถ้าอนาคตมีการเติบโตสูงมาก อาจนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ