โกลเบล็ก มองทิศทาง SET สัปดาห์นี้รับอานิสงส์คาดเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย-กม.อีอีซีบังคับใช้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 15, 2018 10:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก (GBS) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ได้รับปัจจัยบวกจากการชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพราะกังวลจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนในภาคธุรกิจและการจ้างงาน หลังดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯในเดือน เม.ย.ปรับตัวขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งต่ำกว่าคาด แม้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯทรงตัวที่ระดับ 98.8 ในเดือน พ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ระดับ 98.5

และปัจจัยบวกภายในประเทศจากคาดการณ์แนวโน้มตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในช่วงไตรมาส 1/61 จะแสดงถึงการขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาสสุดท้ายของปี 60 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดี รวมทั้ง พระราชบัญญัติเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.61 เป็นต้นไป สร้างความชัดเจนด้านนโยบายการลงทุนและดึงความเชื่อมั่นจากนักลงทุนในประเทศไทย

ส่วนปัจจัยที่ยังคงกดดันภาวะตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ มาจาก fund flow มีความผันผวนมากขึ้น และเริ่มมีแรงซื้อสุทธิสลับเข้ามาหลังจากเงินบาทพลิกแข็งค่า อย่างไรก็ดี ในช่วง 1 เดือนย้อนหลังนักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิลดลงเหลือ 1.3 หมื่นล้านบาท และราคาน้ำมันปรับลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี หลังจากประเทศพันธมิตรของสหรัฐยังคงสนับสนุนข้อตกลงเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่านต่อไป ส่งผลให้คาดการณ์ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านลดลงไม่มากนัก ประกอบกับมีสัญญาณของอุปทานน้ำมันดิบของโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

นอกจากนี้ยังคงต้องจับตาการรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/61 วันสุดท้ายในวันที่ 15 พ.ค.ของบริษัทจดทะเบียน และปัจจัยต่างประเทศจับตาการรายงานตัวเลข GDP ในไตรมาส 1/2561 ของกลุ่มอียู รวมถึงสหรัฐฯจะเปิดเผยตัวเลขดัชนีภาคการผลิตเดือน พ.ค.ยอดค้าปลีกเดือน เม.ย.สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือน มี.ค.ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือน พ.ค. สต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์

ส่วนปัจจัยในประเทศในวันที่ 16 พ.ค.จับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 3/61 และในวันที่ 21 พ.ค.สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) มีกำหนดแถลง GDP ไตรมาส 1/61

ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มไต่ขึ้นต่อ คาดดัชนี SET ผันผวนในกรอบ 1,745-1,790 จุด แนะนำ"ซื้อเก็งกำไร"หุ้นที่มีปัจจัยบวก ได้แก่ BANPU ได้ประโยชน์จากราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นสู่ 100 ดอลลาร์/ตัน เพิ่มขึ้น 9% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา รวมถึง PSL และ TTA ได้อานิสงส์จากค่าระวางเรือปรับตัวขึ้นสู่ 1,453 จุด เพิ่มขึ้น 11% ใน 8 วันที่ผ่านมา และหุ้น MAI ที่คาดการณ์ผลประกอบการปี 2561 เติบโตดี ได้แก่ JUBILE, ATP30 และ AGE

ด้านแนวทางการลงทุนในทองคำ แนวโน้มสัปดาห์นี้เข้าสู่ช่วง rebound ด้วยรูปแบบ V-shape ดีดตัวขึ้นในกรอบหลักระหว่าง 1,300–1,370 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสนับสนุนให้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นมีเพียงการกลับทิศมาอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ เนื่องจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯที่ยังไม่ได้ข้อสรุปเท่านั้น ความเสี่ยงต่าง ๆ ในแต่ละภูมิภาคทั่วโลกไม่โดดเด่นพอจะเป็นบวกต่อสินทรัพย์ปลอดภัยได้

ทั้งนี้ ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีผ่อนคลายลงมากนับตั้งแต่มีการจับมือกันระหว่างเกาหลีเหนือ–ใต้ จนถึงล่าสุดที่สหรัฐฯประกาศจะสนับสนุนด้านการเงินหากเกาหลีเหนือยอมปลดอาวุธนิวเคลียร์ ส่วนในตะวันออกกลางยังอยู่ระหว่างการเจรจาหลังจากสหรัฐฯถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน แต่ชาติมหาอำนาจอื่นที่อยู่ในสัญญาไม่ได้ถอนตัวด้วย จึงมีโอกาสที่การคว่ำบาตรของสหรัฐฯต่ออิหร่านอาจไม่ได้ผลเท่าเมื่อก่อน ในขณะที่ซาอุฯพร้อมผลิตน้ำมันเพิ่ม หากอิหร่านต้องลดการส่งออกน้ำมันจริง ส่งผลให้ราคาน้ำมันในระยะสั้นมีโอกาสผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว จึงไม่ได้เป็นผลดีต่อราคาทองคำ จึงแนะนำซื้อเก็งกำไร โดยแบ่งปิดทำกำไรเป็นรอบสั้น ๆ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ