นายสเปญ จริงเข้าใจ กรรมการผู้จัดการ บมจ. จี แคปปิตอล (GCAP) เปิดเผยถึง ผลประกอบการของบริษัทฯในงวดไตรมาส 1/61 มียอดการปล่อยสินเชื่อใหม่รวม 293 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.7 เท่า จากงวดเดียวกันของปีก่อน สัดส่วนการปล่อยสินเชื่อใหม่แบ่งเป็นสินเชื่อเช่าซื้อร้อยละ 79 และสินเชื่อส่วนบุคคลและนิติบุคคลร้อยละ 21 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 70.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.39 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 80.05 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมจำนวน 39.21.ล้านบาท
สำหรับกำไรสุทธิในงวดไตรมาส 1/2561 เท่ากับ 13.24 .ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.34 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 48.68 เมื่อปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8.90 ล้านบาท เนื่องจากรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าค่าใช้จ่ายและต้นทุนต่างๆ (ค่าใช้จ่ายขายและบริหารซึ่งเพิ่มขึ้น 13.31 ล้านบาท ต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น 12.69 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายภาษีนิติบุคคลซึ่งเพิ่มขึ้น 1.05 ล้านบาท)
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสที่ 2/61 นี้ คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรกที่ผ่านมา เนื่องจากภาคการเกษตรดีขึ้นปัญหาภัยแล้งไม่รุนแรงเหมือนที่ผ่านมา และบริษัทได้เดินหน้าขยายตลาดสินเชื่อเช่าซื้อ ผ่านการเพิ่มพันธมิตรทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งในภาคอุตสาหกรรมการเกษตรและภาคธุรกิจท่องเที่ยวให้มีความหลากหลาย ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยชูสินชื่อสบายใจอันดามัน สินเชื่อเช่าซื้อสำหรับธุรกิจเรือท่องเที่ยว มาเสริมพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อในปีนี้ และในส่วนของสินเชื่อส่วนบุคคล ทางบริษัทฯ ได้เน้นไปที่สินเชื่อกลุ่มเจ้าของแผงในตลาด โดยได้ขยายสินเชื่อสบายใจตลาด ให้ครอบคลุมตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพสูง ผ่าน 3 บริการสินเชื่อคือ สินเชื่อสบายใจคลองเตย, สินเชื่อสบายใจปัฐวิกรณ์ และสินเชื่อสบายใจตลาดไท
ในปี 61 บริษัทตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ราว 1,800 ล้านบาท หรือเติบโตมากกว่า 60% โดยคาดว่าจะมาจากยอดปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อในสัดส่วนร้อยละ 70 และมาจากยอดปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลและนิติบุคคลในสัดส่วนร้อยละ 30 ซึ่งเป้าสัดส่วนยอดปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อปรับสัดส่วนขึ้นจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาภัยแล้งได้คลี่คลายในภาคการเกษตร อีกทั้งบริษัทได้เพิ่มประเภทของเครื่องจักรกลการเกษตรที่ให้บริการเช่าซื้อ ให้มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าให้มีผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภทเพื่อเป็นการกระจายพอร์ตมากขึ้น
"บริษัทฯได้ปรับกลยุทธ์การให้บริการสินเชื่อใหม่ๆเพิ่มขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น เป็นสินเชื่อเงินกู้ยืมมีหลักประกันและสินเชื่อเสริมสภาพคล่อง โดยเน้นกลุ่มลูกค้าเดิมที่มีฐานข้อมูลอยู่แล้วและมีประวัติการชำระเงินดี ซึ่งช่วยให้ลูกค้ามีสภาพคล่องสามารถทำงานได้ต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มบริการทางการเงินของบริษัทฯอีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทฯได้ขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นในการประชุมสามัญประจำปีผู้ถือหุ้นที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจมุ่งเน้นการทำธุรกรรมผ่านมือถือ โดยบริษัทกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการพัฒนาระบบภายในต่างๆ รวมทั้งการประสานงานระหว่างบริษัทและคู่ค้าของบริษัท เพื่อรองรับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งวางแนวทางไว้เพื่อรองรับและพร้อมรับธุรกิจที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต" นายสเปญ กล่าว