ตลาดหุ้นไทยต้นภาคบ่ายยังร่วงต่อเนื่องจากช่วงเช้า โดยไหลลงไปเป็นกว่า 20 จุด จากปัจจัยภายนอกประเทศกดดัน Sentiment การลงทุน โดยแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานยังคงนำดิ่ง
เมื่อเวลา 14.36 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,733.35 จุด ลดลง 20.25 จุด (-1.15%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.56 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,738.73 จุด ลดลง 14.87 จุด (-0.85%)
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลงกว่า 20 จุด ภายหลังจากหลุดทางเทคนิค 1,740 จุดลงมา ทำให้เกิดแรงขายตามมา มองว่าเป็นการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติ หลังจากที่ MSCI จะมีการปรับลดน้ำหนักหุ้นไทย โดยมีผลในวันที่ 31 พ.ค.นี้
แต่หลังจากนี้เชื่อว่าจะเป็นจุดกลับตัวขึ้นมาได้ ดังนั้น เมื่อราคาหุ้นปรับตัวลงแรงก็สามารถทยอยซื้อได้ โดยมองให้รอซื้อแถวบริเวณเส้น 200 วันที่ระดับ 1,729 จุด
ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราอ่อนแอกว่าตลาดหุ้นในกลุ่ม TIP ที่ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย และตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ต่างก็ปรับตัวขึ้นกัน อย่างไรก็ดีให้ติดตามวันที่ 30 พ.ค.ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยร่างกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. หากผ่านไปได้ตลาดฯก็จะฟื้นตัวขึ้น และให้ติดตามความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนด้วย
โดยให้แนวรับ 1,730 จุด ส่วนแนวต้าน 1,740 จุด
ด้านนายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลงกว่า 20 จุด เป็นการรับแรงขายหนักจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมต้นน้ำที่ปรับตัวลงนำตลาดฯ ขณะที่ตลาดหุ้นในแถบเอเชียเหนือต่างติดลบ อันเป็นผลจากความกังวลปัญหาการค้าจีนและสหรัฐฯยังมีอยู่บ้าง ขณะที่ตลาดในส่วนของเอเชียใต้จะปรับตัวขึ้นกัน จากเริ่มคลายกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,730-1,760 จุด