PCSGH มองแนวโน้ม Q2/61 โตรับออร์เดอร์ใหม่-บริษัทร่วมทุนเริ่มผลิตได้ ทั้งปีมั่นใจรายได้โตเข้าเป้า 10%

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 24, 2018 15:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประสงค์ อดุลยรัตนนุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พี.ซี.เอส.แมชีน กรุ๊ปโฮลดิ้ง (PCSGH) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/61 จะเติบโตสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทมีคำสั่งซื้อที่รอการผลิตและส่งมอบให้กับลูกค้าแล้ว ประกอบกับมียอดส่งสินค้าให้กับลูกค้าราว 400 ล้านบาทในไตรมาสนี้

นอกจากนั้น ในเดือน พ.ค.61 บริษัทยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และชิ้นส่วนอื่นๆ อายุโครงการ 5 ปี มูลค่ารวม 4 พันล้านบาท โดยมีกำหนดส่งมอบและเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ในงวดไตรมาส 4/62 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 61 ยังมั่นใจว่ารายได้จะเติบโต 10% จากปีก่อน ตามการเติบโตของภาวะอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ ซึ่งบริษัทมียอดคำสั่งซื้อล่วงหน้าในส่วนของผลิตภัณฑ์ใหม่รวม 1.9 พันล้านบาท เป็นชิ้นส่วนรถยนต์ประเภทขนส่ง และรถปิ๊กอัพ และยังมีออเดอร์ปกติอยู่อีกส่วนหนึ่ง

ส่วนภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ในปีนี้เริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) คาดการณ์ว่าปีนี้จะมียอดผลิตรถยนต์ประมาณ 2 ล้านคัน โดยเป็นผลเติบโตจากการปลดล็อคโครงการรถยนต์คันแรก และการที่ภาครัฐลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้มีการใช้รถเพื่อการขนส่งสินค้าหรือส่งคนงานมากขึ้น

นอกจากนี้ ในช่วงปลายปี 60 บริษัทได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอลูมิเนียมสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า 2โครงการใหม่ มูลค่าทั้งโครงการ 2 พันล้านบาท โดยมีกำหนดส่งมอบและเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 63 โดยบริษัทได้เตรียมแผนลงทุนขยายโรงงานในปี 61 เพื่อรองรับการขยายตัวอย่างรวดเร็วของชิ้นส่วนอลูมิเนียมในอนาคตแล้ว พร้อมวางงบลงทุนรวม 200 ล้าน เพื่อรรองรับการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตให้ดีขึ้น

ส่วนกรณีที่บริษัทย่อยเข้าซื้อสินทรัพย์จาก H.J.Kuepper Metallbearbeitung GmbH , H.J.Kuepper System&Modultechnik GmbH , Zelter GmbH และ Kuepper คาดว่าจะสามารถดำเนินการผลิตได้เต็ม 100% ในปี 63 โดยการเข้าลงทุนในโครงการดังกล่าว บริษัทได้ใช้เงินซื้อสินทรัพย์ทั้งหมด จำนวน 26.5 ล้านยูโร

ขณะนี้บริษัทดังกล่าวได้เริ่มไลน์การผลิตบางส่วนแล้ว และเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาแล้วในไตรมาส 2/61 ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนผลการดำเนินงานในไตรมาสนี้ให้เติบโตขึ้นด้วย โดยที่การเข้าลงทุนในโครงการดังกล่าวจะเป็นการช่วยเพิ่มศักยภาพในการขยายตลาดออกสู่กลุ่มทวีปยุโรปมากขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ