(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ฟื้นตัวจากภาวะขายมากเกินไป เล็งกลุ่มพลังงานหนุนตลาดหลังราคาน้ำมันดีดขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 31, 2018 09:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นได้จากภาวะขายมากเกินไป โดยมีแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และซาอุดิอาระเบียจะยังไม่เพิ่มกำลังการผลิตไปจนถึงสิ้นปี ซึ่งทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานวันนี้น่าจะฟื้นตัวขึ้นได้ โดยหุ้นที่น่าสนใจเป็นหุ้น PTT ส่วนหุ้น PTTEP ราคาได้ขึ้นมาตอบรับราคาน้ำมันไปพอควรแล้ว

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวกราว 0.5-0.9% พร้อมให้ติดตามการปรับน้ำหนักของ MSCI ที่จะมีผลในวันนี้ หลังจากนั้นเมื่อเข้าสู่เดือนมิ.ย.แล้วน่าจะได้เห็นทิศทางแรงขายของนักลงทุนต่างชาติชะลอลง และในช่วงกลางเดือนก็คงจะมีการประกาศหุ้นที่จะเข้าใน SET50 และ SET100 ตามมา

อย่างไรก็ดี มองว่าดัชนีหุ้นไทยคงจะยังเคลื่อนไหวในกรอบขาลง หากยังไม่ผ่านแนว 1,755 จุด พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,711-1,730 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (30 พ.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,667.78 จุด พุ่งขึ้น 306.33 จุด (+1.26%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,724.01 จุด เพิ่มขึ้น 34.15 จุด (+1.27%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,462.45 จุด เพิ่มขึ้น 65.86 จุด (+0.89%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 144.88 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 20.39 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 217.39 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 34.86 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 19.80 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 32.51 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 12.37 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (30 พ.ค.61) 1,725.14 จุด ลดลง 9.40 จุด (-0.54%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,383.12 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 พ.ค.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (30 พ.ค.61) ปิดที่ 68.21 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.48 ดอลลาร์ หรือ 2.2%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (30 พ.ค.61) ที่ 6.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.03 แข็งค่าตามภูมิภาค หลังยูโรฟื้นจากคลายกังวลการเมืองอิตาลี
  • รฟท.ติดเครื่องไฮสปีดเทรน 3 สนามบิน 12 พ.ย.นี้ เปิดยื่นซองชิงเค้ก ลั่นผู้ชนะ ต้องควัก 4.2 หมื่นล้านบาท พัฒนาพื้นที่มักกะสัน 150 ไร่ ชี้กลุ่มอสังหา-ซีพี-เซ็นทรัล- ปตท.จ่อลงสนาม
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยแพร่รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งล่าสุด โดย กนง.ได้ประเมินว่าแม้ภาวะเศรษฐกิจจะขยายตัวดี แต่ผลยังกระจุกตัวในตลาดแรงงานและการบริโภคภาคเอกชนที่เกี่ยวกับการส่งออกเท่านั้น รายได้ของครัวเรือนนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นแต่ในกลุ่ม รายได้ปานกลางถึงสูง ซึ่งช่วยสนับสนุนให้การบริโภคกลุ่มสินค้าคงทนขยายตัวได้ ขณะที่ครัวเรือนที่มีรายได้น้อยยังมีรายได้ทรงตัวและมีปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงยังเป็นปัจจัยฉุดรั้งการบริโภค
  • ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) เดือน เม.ย. 2561 อยู่ที่ 103.28 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.99% และเป็นค่าดัชนีที่ขยายตัวเป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 ส่งผลให้เอ็มพีไอ 4 เดือนแรกขยายตัว 4.1%
  • ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)ฉลุย ศาลรธน.วินิจฉัยช่วยคนพิการลงคะแนน-ตัดสิทธิ ข้าราชการการเมือง ไม่ใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ขัดรัฐธรรมนูญ นัดลงมติ คำสั่งหัวหน้า คสช. 53/2560 ขัด รธน.หรือไม่ 5 มิ.ย.นี้ "วิษณุ" รับลูกนายกฯ คุยพรรคการเมือง หลังกฎหมายลูกประกาศใช้ครบ
  • สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ได้รายงานความคืบหน้าการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์) หรือ ทีทีเอฟ ต่อคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เมื่อวานนี้ ว่า สำนักงานอัยการสูงสุดได้มีการตรวจสอบร่างสัญญาการออกกองทุนซึ่งสามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า หลังจากที่เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรก ปี 2561 ขยายตัวได้ 4.8% สูงสุดในรอบ 5 ปี แต่เศรษฐกิจไตรมาส 2 คาดว่าจะขยายตัวได้ 4% เนื่องจากฐานเศรษฐกิจของไตรมาส 2 ของปี 2560 เริ่มขยายตัวสูงขึ้น

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SAMART-W2 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 335,429,635 หน่วย อายุ 3 ปี ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาท/หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 1 หุ้น ที่ราคาใช้สิทธิหุ้นละ 15 บาท โดยกำหนดใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 16 พ.ย.61 และใช้สิทธิครั้งสุดท้ายวันที่ 17 พ.ค.64
  • BANPU (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 28 บาท ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ราคาถ่านหินยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ไม่มีปัจจัยลบจากการควบคุมของภาครัฐ ขณะที่ Valuation ค่อนข้างถูกมี PE Ratio ต่ำเพียง 8 เท่า
  • ROBINS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 78 บาท แม้ SSSG เม.ย.61 ยังแผ่ว แต่คาดว่าจะดีขึ้นใน มิ.ย.61 ที่มีการจัดงาน greatest grand sale (ร่วมกับ central) พร้อมตั้งเป้ารุกหนักในการเพิ่มสัดส่วน private brand เพื่อเพิ่มมาร์จิ้น และขยายธุรกิจ online โดยเน้น omni channel ส่วนสาขาจะเปิดใหม่ 2 แห่งใน H2/61 คาดกำไรสุทธิทั้งปีนี้ +13.5% Y-Y เป็น 3.1 พันล้านบาท ด้านราคาหุ้นค่อนข้าง Laggard กว่ากลุ่ม และ Forward PE ยังต่ำเพียง 23 เท่า เทียบกับกลุ่มที่ 28-30 เท่า
  • KTB (ไอร่า) เป้า 21.90 บาท ราคาหุ้นปรับตัวลดลงเป็นโอกาสเข้าซื้อ คาดในระยะสั้นมีประเด็นน่าสนใจจากการประมูลที่ดินของ AQ นัดแรก ในวันที่ 6 มิ.ย.61 หากประมูลสำเร็จ คาดมีกำไรพิเศษ 8,500 ล้านบาท (EPS ประมาณ 0.60 บาท) คาดเพิ่ม Target Price อีก 0.40 บาท และยังได้รับคัดเลือกคำนวนในดัชนี MSCI Minimum Volatility ซึ่งมีผลเมื่อ 31 พ.ค.61 ด้านสำรองหนี้ลดลงจากปี 60 แม้คาดสินเชื่อจะเติบโตไม่โดดเด่นเมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน แต่ภายใต้นโยบายของ KTB ที่ต้องการปรับลดสินเชื่อที่มีความเสี่ยง เช่น สินเชื่อโรงสี และสินเชื่อสหกรณ์ เป็นต้น ทำให้คาดกำไรสุทธิเติบโตโดดเด่นจากสำรองหนี้ 32,000 ล้านบาท ลดลงจาก 44,000 ล้านบาท เมื่อปี 60 (รวมสำรองหนี้ EARTH จำนวน 12,000 ล้านบาท) ขณะที่ KTB ตั้งเป้าหมายสำรองหนี้ในปี’61 ไม่เกิน 30,000 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ