ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,722.04 จุด ลดลง 11.01 จุด (-0.64%) มูลค่าการซื้อขาย 43,421.35 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,736.00 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,721.88 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 424 หลักทรัพย์ ลดลง 830 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 451 หลักทรัพย์
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีปรับตัวลดลงสอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาคและตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวลดลงตามกัน จากความกังวลเกี่ยวกับการประชุม G7 ในวันที่ 8-9 มิ.ย.นี้ เกี่ยวกับประเด็นการเจรจาทางการค้า ทำให้มีแรงขายออกมากดดันดัชนีย่อตัวลง
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้ามองว่าจะมีความผันผวนค่อนข้างมาก เพราะมีปัจจัยสำคัญในต่างประเทศเกิดขึ้น เช่น การพบกันระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯและผู้นำเกาหลีเหนือ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งล้วนแต่เป็นปัจจัยที่มีน้ำหนักต่อตลาดอย่างมีนัยสำคัญ และเป็นปัจจัยที่นักลงทุนต้องติดตาม
โดยมองว่าในช่วงต้นสัปดาห์หน้าดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสที่จะดีดกลับขึ้นมาได้ หลังจากที่วันนี้ย่อตัวลงไปค่อนข้างมาก ส่วนในช่วงปลายสัปดาห์อาจจะเห็นการแกว่งตัวเกิดขึ้น เพราะปัจจัยการประชุม ECB ค่อนข้างมีน้ำหนักมาก จากการลุ้นว่า ECB จะมีนโยบายเกี่ยวกับการมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ออกมาอย่างไร มากกว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
พร้อมให้แนวต้าน 1,760 จุด แนวรับ 1,720-1,700 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,822.03 ล้านบาท ปิดที่ 51.00 บาท ลดลง 1.25 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,127.58 ล้านบาท ปิดที่ 194.50 บาท ลดลง 5.00 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,853.18 ล้านบาท ปิดที่ 25.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,577.07 ล้านบาท ปิดที่ 21.50 บาท ลดลง 0.10 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,506.15 ล้านบาท ปิดที่ 136.00 บาท ลดลง 3.50 บาท