เลขาฯ ก.ล.ต.แจงยึดหลักปรับทัศนคติ-เปิดกว้าง-ทำความเข้าใจเพิ่มขึ้นหลังเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็ว เตือนนักลงทุนศึกษาข้อมูลรับมือ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 21, 2018 13:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวในงานสัมนาสมาคมส่งเสริมสถาบัน กรรมการบริษัทไทย (ไอโอดี) ประจำปี 61 ในหัวข้อ "Rising Above Financial Disruption Through Facilitatin Regulation"ว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของโลกจากการที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในทุกอุตสาหกรรม ในฐานนะที่ ก.ล.ต.เป็นผู้กำกับดูแลตลาดยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมด้วย ทำให้การทำงานด้านการกำกับดูแลนั่นต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปให้สอดคล้องกับภาวะที่เป็นอยู่ในขณะนั้น

ดังนั้น กระบวนการทำงานด้านการกำกับดูแลของ ก.ล.ต.ในขณะนี้ต้องมีการเปิดกว้างและทำความเข้าใจกับสิ่งใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เท่าทันกับข้อมูลและเทคโนโลยีที่มีการรับรู้และสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ประกอบกับจะต้องนำประสบการณ์และกฏเกณฑ์เดิมมาผสมผสานให้มีความสอดคล้องและเหมาะสมกับปัจจุบัน นายรพี กล่าวว่า ตั้งแต่ปีก่อนจะเห็นว่าเริ่มมีกระแสของคลาวด์ฟันดดิ้ง คริปโตเคอเรนซี่ และบล็อคเชน ซึ่งเป็นสิ่งที่หน่วยงานด้านกำกับดูแลยังมีความเข้าใจไม่มาก อีกทั้งยังเป็นเรื่องใหม่ที่ภาคประชาชนยังไม่มีความรู้เช่นเดียวกัน ทำให้ ก.ล.ต.ต้องปรับตัวเพื่อศึกษาสิ่งใหม่ๆ และเข้าใจในสิ่งที่จะมีผลกระทบต่อวงกว้าง โดยที่ผ่านมา ก.ล.ต.ได้ให้เจ้าหน้าที่ไปศึกษาข้อมูล และเปิดรับฟังความคิดเห็นจากบุคคลภายนอกที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อให้การออกกฏเกณฑ์กำกับดูแลมีความเหมาะสมและรองรับกับเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น

นอกจากนี้ งานด้านกำกับดูแลยังจำเป็นต้องนำเทคโนโลยีและดิจิทัลมาไช้เพื่อเป็นการรวบรวมข้อมูลประกอบการพิจารณาต่าง โดยฐานข้อมูลถือว่ามีความสำคัญมากเพื่อนำมาประกอบการวิเคราะห์ หากมีการกระทำผิดเกิดขึ้นก็จะมีการนำข้อมูลมาใช้ประกอบการลงโทษได้ ขณะที่มาตรการในการลงโทษผู้กระทำผิดนั้นก.ล.ต.ก็มีการพิจารณาตามความเหมาะสม ตามขอบเขตและวัตถุประสงค์ของการกระทำผิด

แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามาตรการการลงโทษเดิมจะยังสามารถใช้ได้ แต่ในแง่ของเทคโนโลยีการลงทุนรูปแบบใหม่ที่เข้ามา อย่างเช่น คริปโตเคอเรนซี ที่มีการระดมเงินทุนจากประชาชน ยังต้องมีการปรับบทลงโทษในส่วนนี้ให้เหมาะสม หากเข้มงวดมากเกินไปอาจกลายเป็นผลเสีย ทำให้ความน่าสนใจลงทุนลดลงไปด้วย

"แม้ว่าเราจะมีกฏหมายอยู่ในมือ แต่การลงโทษต่างๆก็จะต้องจัดสรรตามขอบเขตและวัตถุประสงค์ของความผิด และต้องเท่าทันเหตุการณ์และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ทำให้ก.ล.ต.ต้องมีรปรับตัวอยู่ตลอดเวลา"นายรพี กล่าว

ในด้านของผู้ลงทุนก็จะต้องมีการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือความเสี่ยงที่เกิดขึ้นด้วยการศึกษาข้อมูล และนำข้อมูมาวิเคราะห์อย่างรอบคอบก่อนการลงทุนเสมอ โดยปัจจุบันมีการส่งข้อมูลผ่านช่องทางโซเชียลให้ผู้รับสารได้ทราบ ซึ่งการรับสารของผู้รับสารหรือแม้แต่นักลงทุนก็ตามควรจะทำความเข้าใจกับสื่อที่ได้รับมาว่าข้อมูลที่ถูกรายงานมามีวัตถุประสงค์อย่างไร มีความถูกต้องและเชื่อถือได้หรือไม่ ดังนั้นการลงทุนในปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว นักลงทุนจะต้องใช้ความรอบคอบในการนำข้อมูลมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจลงทุนอย่างมาก

"ทุกคนจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง เพราะเทคโนโลยีที่เข้ามาทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก ในส่วนของก.ล.ต.นั้นก็จะต้องปรับการทำงาน ทัศนคติใหม่ๆ มีการพิจารณาและลงโทษตามความเหมาะสม และสิ่งสำคัญคือการให้บริษัทจดทะเบียนเปิดเผยข้อมูลที่โปร่งใสและมีมาตรฐาน เพื่อทำให้นักลงทุนนำไปวิเคราะห์เปรียบเทียบความเหมาะสมไนการลงทุนได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุคาดหวัง อีกทั้งการทำงานของก.ล.ต.จะต้องมีตวามคล่องตัวมากขึ้นและเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญมาร่วมทำงานด้วย เพื่อการกำกับดูแลจะมีความสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป"นายรพี กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ