บมจ.ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ (TEAMG) คาดว่าจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) และนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในเดือน ก.ค.นี้ โดยมีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ APM เปิดเผยว่า ในวันนี้ TEAMG มีการปิดท้ายการนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุนและประชาชน หรือ โรดโชว์ ที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นจังหวัดที่ 16 โดยก่อนหน้านี้ได้มีการเดินสายโรดโชว์ตามจังหวัดต่างๆ ไปแล้วจำนวน 15 จังหวัด เพื่อแนะนำข้อมูลธุรกิจและข้อมูลทางการเงินของบริษัทก่อนการเสนอขายหุ้น IPO และในวันที่ 2-3 ก.ค.นี้ก็เตรียมที่จะเดินทางไปโรดโชว์ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งจะมีผู้จัดการกองทุนเข้าร่วมทั้งหมด 8 กองทุน
ทั้งนี้ TEAMG จะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 180 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.47% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออก และเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ซึ่งปัจจุบัน TEAMG มีทุนจดทะเบียนเท่ากับ 340 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 680 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทต่อหุ้น โดยมีทุนเรียกชำระแล้ว 250 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 500 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทต่อหุ้น
TEAMG เป็นผู้ให้บริการในการเป็นที่ปรึกษาด้านวิศวกรรม และสิ่งแวดล้อมแบบบูรณาการ (Integrated Consulting Services) และจัดทำรายงานประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) โดยสามารถให้บริการแบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว (One-stop Service) ให้แก่ลูกค้าได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ และรวดเร็ว ซึ่งสามารถแบ่งประเภทการให้บริการตามลักษณะการประกอบธุรกิจ ได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1.ธุรกิจการศึกษา ออกแบบ และจัดทำรายงาน หรือ Study & Design) 2.ธุรกิจการบริหารโครงการและควบคุมการก่อสร้าง (Project Management & Construction Supervision: PMSC) และ 3.ธุรกิจเกี่ยวเนื่อง (Related business) โดยมีกลุ่มลูกค้าแบ่งได้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ลูกค้าภาครัฐ (Government) ลูกค้าภาคเอกชน (Private) ลูกค้าต่างประเทศ (International) และลูกค้าธุรกิจเกี่ยวเนื่อง (Related Business)
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะจัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ TEAMG กล่าวถึงการกำหนดราคาขายหุ้น IPO ของ TEAMG ว่า ในช่วงนี้ด้วยความผันผวนของดัชนีตลาดหุ้นไทย การกำหนดราคาจึงจะนำความผันผวนและความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นนั้นมาคำนวนในราคาหุ้นด้วย โดยราคาหุ้นของ TEAMG นั้นจะอิงอยู่กับกลุ่มหุ้นอุตสาหกรรมก่อสร้าง
"ด้วยภาวะตลาดแบบนี้ เราเชื่อว่าในสัปดาห์นี้ สัปดาห์หน้า ดัชนีตลาดหุ้นไทยคงจะนิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการกำหนดราคาก็จะนำความเสี่ยงของความผันผวนดัชนีตลาดหุ้นไทยเข้ามาคำนวณด้วย ซึ่งเราคำนึงถึงนักลงทุนด้วย แต่อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เพราะบริษัทฯมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มนี้ และด้วยความชำนาญของบริษัทฯที่มีมายาวนานกว่า 40 ปีด้วย"นายสมภพ กล่าว
ด้านนายชวลิต จันทรรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TEAMG กล่าวว่า ทิศทางรายได้ของบริษัทในปี 62 จะเติบโตมากกว่าค่าเฉลี่ยปกติที่เติบโตราว 10% ต่อปี เนื่องจากจะมีปริมาณงานออกมาค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะงานโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ อาทิ รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง และรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ รวมไปถึงโครงการภายใต้เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่จะช่วยให้บริษัทมีโอกาสสร้างรายได้เข้ามามากขึ้น
ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่า 3,473.94 ล้านบาท โดยงานมูลค่าราว 2,371.14 ล้านบาทเป็นงานของภาครัฐที่จะทยอยรับรู้รายได้ไปจนถึงปี 63 ส่วนที่เหลือจะเป็นงานของภาคเอกชนในประเทศ ต่างประเทศ และ กลุ่มธุรกิจเกี่ยวเนื่อง 1,102.8 ล้านบาทซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง