GUNKUL เปิดตัว"GRoof"รุกตลาดโซลาร์รูฟภาคครัวเรือนวางเป้า 1 ปี 300 หลังคา,เจรจาติดตั้งในโครงการอสังหาฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 29, 2018 17:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัว GRoof หรือ กรูฟ ดำเนินธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) เพื่อช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าให้กับผู้บริโภค โดยสามารถผลิตไฟฟ้าใช้ได้เองตลอดอายุการใช้งาน 25 ปี และจะสามารถคืนทุนได้ภายใน 8-10 ปี และมีผลตอบแทนจากการลงทุน 8-14%

ทั้งนี้ จากแนวโน้มความต้องการใช้ไฟฟ้าภายในประเทศที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี จึงทำให้กลุ่มบริษัทฯ เล็งเห็นถึงความต้องการไฟฟ้าภายในประเทศ และมองว่าการติดตั้งโซลาร์รูฟเป็นการช่วยประหยัดค่าไฟ จึงนำมาซึ่งโครงการ "GRoof Smart Living by Gunkul" ที่จะสร้างมิติใหม่ของการประหยัดพลังงานที่ทุกๆคนสามารถจับต้องได้

GRoof นอกจากจะส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อมจากการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แล้ว ยังให้การดูแลลูกค้าด้วยทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ด้านงานติดตั้งระบบโซลาร์มากกว่า 300 เมกะวัตต์ พร้อมด้วยแอพพลิเคชั่นที่สามารถรายงานผลผลิตไฟฟ้าของบ้านแบบสะดวกทันสมัย สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา

"บริษัทยังคงเดินหน้าในการมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพของธุรกิจในภาคส่วนต่างๆ ให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เพื่อเป้าหมายในการเป็นผู้ประกอบการด้านธุรกิจพลังงานทดแทนอย่างครบวงจร และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ "GROOF " ครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดธุรกิจและตอกย้ำให้เห็นว่าบริษัทพร้อมลุยต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจโซลาร์ของกันกุลให้ครอบคลุม ครบวงจร ให้ทุกประเภทการใช้งานของโซลาร์ และครอบคลุมทุกกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้า จากปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และลมทั้งในและต่างประเทศรวมแล้วกว่า 500 เมกะวัตต์"นางสาวโศภชา กล่าว

ด้านนางสาวนฤชล ดำรงปิยวุฒิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ GUNKUL กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ามีลูกค้าติดตั้งแผงโซลาร์ GRoof ภายใน 1 ปีจำนวน 300 หลังคาเรือน และคาดว่าจะสร้างรายได้ 50-70 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าเข้ามาลงทะเบียนสนใจติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาแล้วคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถดำเนินการติดตั้งแผงดังกล่าวได้จำนวน 100 หลังคาเรือน และน่าจะสร้างรายได้เข้ามาประมาณ 30 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทก็อยู่ระหว่างเจรจากับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ 2-3 ราย เช่น บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง (PSH) เป็นต้น เพื่อให้บริการติดตั้งแผงโซลาร์รูฟบนหลังคาทั้งโครงการเก่าและใหม่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ อีกทั้งบริษัทยังได้ร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ เพื่อเพิ่มวงเงินสินเชื่อบ้านให้ครอบคลุมการติดตั้งโซลาร์รูฟ โดยขณะนี้ได้ร่วมกับธนาคารพาณิชย์แล้ว 2 แห่ง ได้แก่ ไทยพาณิชย์ และกสิกรไทย และอยู่ระหว่างเจรจาเพิ่มเติมอีก 3 ราย

พร้อมกันนี้บริษัทยังมองโอกาสขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศอีกด้วย โดยจะมุ่งเน้นกลุ่มประเทศ CLMV และเน้นกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่เป็นหลัก เช่น กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมในต่างประเทศ เป็นต้น คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายใน 1 ปีจากนี้

ส่วนงบการลงทุน บริษัทจะเน้นการลงทุนไปในด้านการตลาด โดยวางงบไว้ที่ 10-15% ของรายได้ที่คาดว่าจะได้รับภายใน 1 ปี ซึ่งจะเน้นการโฆษณา และสร้างการรับรู้ผ่านโซเชียลมีเดียเป็นหลัก

นางสาวนฤชล กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับความคืบหน้าการลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคา 34 โรงงานในเครือ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) รวม 40 เมกะวัตต์ มูลค่าลงทุนราว 1,400 ล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จภายใน 5-7 เดือน คาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) 9-10% ขณะเดียวกันบริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ประกอบการรายอื่นหลายรายเพื่อเข้าติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาสถานประกอบการ เช่น กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และโรงพยาบาล เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ