(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นกรอบจำกัด ขานรับแรงซื้อหุ้นรายตัวลงลึก-มีปันผล, จับตาภาวะสงครามการค้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 3, 2018 09:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะดีดตัวขึ้นในกรอบแคบ ตามแรงซื้อหุ้นรายตัวที่มีเข้ามาเมื่อวานนี้ อย่างหุ้นในกลุ่มแบงก์, IVL ,SCC หลังหุ้นดังกล่าวปรับตัวลงมาลึกและมีการจ่ายปันผล ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นตามทืศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นเมื่อวานนี้

อย่างไรก็ตามยังต้องจับตาดูแรงซื้อจากกองทุนในประเทศว่าจะมีความต่อเนื่องหรือไม่ หลังจากได้เข้าซื้อมาค่อนข้างมากเมื่อวานนี้ ,การประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/61 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่จะเริ่มขึ้นในช่วงเดือนก.ค. รวมถึงติดตามภาวะสงครามการค้าระหว่างประเทศต่าง ๆ ด้วย หลังจากสหภาพยุโรป (EU) ขู่เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเพิ่มการจัดเก็บภาษีต่อรถยนต์นำเข้าจากยุโรป

พร้อมให้แนวรับที่ระดับ 1,599 และ 1,594 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,615 และ 1,622 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (2 ก.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,307.18 จุด เพิ่มขึ้น 35.77 จุด (+0.15%) ,ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,726.71 จุด เพิ่มขึ้น 8.34 จุด (+0.31%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,567.69 จุด เพิ่มขึ้น 57.38 จุด (+0.76%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 77.13 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงลดลง 338.11 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 24.94 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 14.34 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 6.73 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.32 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (2 ก.ค.61) 1,607.27 จุด เพิ่มขึ้น 11.69 จุด (+0.73%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,837.79 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 ก.ค.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (2 ก.ค.61) ปิดที่ 73.94 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 21 เซนต์ หรือ 0.3%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 ก.ค.61) ที่ 4.51 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.15 แนวโน้มอ่อนค่า มองกรอบเคลื่อนไหว 33.15-33.30 ตลาดรอปัจจัยใหม่หนุนทิศทาง
  • ธปท.เผยดัชนีความเชื่อทางธุรกิจเดือนมิ.ย.และในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวดีขึ้น สะท้อนภาคธุรกิจมั่นใจเศรษฐกิจขยายตัวดีต่อเนื่อง ยกเว้นกลุ่มธุรกิจผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่กังวลคำสั่งซื้อจากต่างประเทศลด จากสงครามการค้า สหรัฐ-จีน ซึ่งจะเริ่มเก็บภาษีเพิ่มระหว่างกันในเดือนก.ค.นี้
  • นายธีรัชย์ อัตนวานิช ที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้ รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 พ.ค.61 มีจำนวน 6,497,688.57 ล้านบาท คิดเป็น 40.78% ของผลผลิตมวลรวมในประเทศ (GDP)
  • ธ.ก.ส.เร่งปรับหนี้เกษตรกร หลังพบยอดหนี้ 3 หมื่นล้านบาท เริ่มผิดนัดชำระ จ่อกลายเป็น "เอ็นพีแอล" ดันสัดส่วนหนี้เสียแตะ 6% ชี้ผลจากราคาพืชผลบางชนิดตกต่ำ ส่งทีมเข้าปรับโครงสร้างหนี้ ลดดอกเบี้ย ย้ำต้องเสร็จภายในเดือนนี้หวังพยุงสัดส่วนหนี้เสียในระดับเดิม ด้าน สศก. แจงราคาข้าวพุ่ง ขณะ "ยาง-สับปะรด" ทรุด เชื่อครึ่งปีหลังดีขึ้น
  • รมว.พลังงาน คิกออฟบี 20 ใช้กับรถบรรทุกขนาดใหญ่ เรือด่วน ราคาต่ำกว่าดีเซล บี 7 ถึงลิตรละ 3 บาท มั่นใจช่วยชะลอการปรับขึ้นค่าขนส่งและค่าโดยสาร และยังช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ 5-6 แสนตันต่อปี ทำให้ราคาผลปาล์มดิบปรับตัวสูงขึ้น
  • พาณิชย์ เผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) เดือน มิ.ย. 2561 เท่ากับ 102.05 สูงขึ้น 1.38% เทียบกับเดือน มิ.ย. 2560 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 นับจากเดือน ก.ค. 2560 ที่เงินเฟ้อสูงขึ้น 0.17% แต่ลดลง 0.09% เมื่อเทียบกับเดือน พ.ค. 2561 ส่งผลให้เงินเฟ้อเฉลี่ย 6 เดือนแรกปีนี้ สูงขึ้น 0.97% เทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา

*หุ้นเด่นวันนี้

  • PSL (ไอร่า) ให้ราคาเป้าหมายที่ 18 บาท มองแนวโน้ม 2Q61 ดีขึ้นเมื่อเทียบกับ 1Q61 ที่มีกำไรสุทธิ 108 ล้านบาท จากภาคอุตสาหกรรมหนักของจีนที่กลับมาผลิตเป็นปกติ (ช่วงฤดูหนาวถูกปิดบางส่วนจากปัญหาหมอกควัน) โดยล่าสุดค่าเฉลี่ย QTD ของค่าระวางเรือ Handysize และ Supramax ซึ่งเป็นขนาดเรือของ PSL เพิ่มขึ้น 5.3% และ 10.4% QoQ ตามลำดับ ส่วนระยะกลาง มุมมองด้าน Demand-Supply เข้าสู่สมดุลขึ้นเป็นลำดับ สอดคล้องกับการประเมินของสำนักต่างๆ ที่คาด Supply เรือเทกอง เพิ่มขึ้นเพียงราว 1-2% ในปี 61-62 ขณะที่ Demand เติบโตสัมพันธ์กับเศรษฐกิจโลกที่ราว 4% ขณะที่ระยะยาว ปัจจัยด้านกฏเกณฑ์ ได้แก่ ข้อตกลงการจัดการน้ำถ่วงเรือ และเกณฑ์การจำกัดค่ากำมะถันในเชื้อเพลิง ที่จะบังคับใช้ในปี 62-63 กดดันให้เรืออายุมากปลดระวางเรือเร็วขึ้น
  • LPN (กสิกรไทย) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมายที่ 10.60 บาท การเปิดตัวโครงการบ้าน 365 พระราม 3 ซึ่งเป็นโครงการบ้านแนวราบระดับบนโครงการแรก ปัจจุบันโครงการดังกล่าวก็สามารถทำยอดขายได้ถึง 25% หรือ 700 ล้านบาทแล้ว ส่งผลให้ยอดขายตั้งแต่ต้นปีจนปัจจุบันคาดว่าจะเพิ่มเป็น 8.7 พันล้านบาท โดยเห็นว่าเป็นการเปิดตัวโครงการประเภทใหม่ที่ดี และคาดว่า LPN จะมีการพัฒนาโครงการประเภทดังกล่าวเพิ่มขึ้นในปีนี้ อย่างไรก็ดียอดขายตั้งแต่ต้นปีดังกล่าวยังไม่สูงมากหากเทียบกับเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ 2 หมื่นล้านบาท จึงคาดจะเห็นโครงการใหม่ ๆ ในทำเลใหม่ ๆ และประเภทใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอีกในครึ่งหลังของปี ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม เนื่องจากอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ LPN กลับมามีการเติบโตที่ยั่งยืนอีกครั้ง
  • BCP (เอเอสแอล) แนะ"ซื้อ"ให้ราคาเป้าหมาย 42 บาท โดยความน่าสนใจอยู่ที่ Valuation ที่ปรับลดลง ซึ่งปัจจุบัน BCP ซื้อขายอยู่ที่ 8.7xPE61 มองว่า 2H61 จะมีปัจจัยบวกจาก (1) การคาดหมายแนวโน้มผลประกอบการฟื้นตัว และ (2) การนำ BBGI (BCP ถือหุ้น 40%) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ขณะที่มีมุมมอง Neutral เกี่ยวกับการเข้าลงทุนแหล่งปิโตรเลียมใน OKEA แม้ยังไม่ได้รวมโครงการดังกล่าวในประมาณการ โดยกระบวนการจะแล้วเสร็จภายใน พ.ย.61 ด้านกำไรสุทธิ 2Q61 คาดว่าจะลดลง QoQ จากกำลังกลั่นและค่าการตลาดที่ลดลง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ