ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,626.62 จุด เพิ่มขึ้น 19.35 จุด (+1.20%) มูลค่าการซื้อขาย 58,567.28 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,628.30 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,600.71 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 975 หลักทรัพย์ ลดลง 366 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 332 หลักทรัพย์
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงบ่ายขึ้นมาค่อนข้างมาก รับแรงซื้อของหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ประกอบกับหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มปิโตรเคมีบางตัวที่เมื่อวานนี้ปรับตัวลงไปมาก ได้แก่ GGC และ PTTGC ก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาในวันนี้ ช่วยหนุนให้ดัชนีเพิ่มขึ้นได้
ในวันนี้คาดว่าเป็นการฟื้นตัวทางเทคนิค หลังจากที่ดัชนีปรับตัวลงไปแรงในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ปัจจัยต่างๆทั้งในและต่างประเทศยังไม่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะสงครามการค้าและค่าเงินบาทบาทที่อ่อนค่ายังกดดันอยู่ ขณะเดียวกันก็ยังไม่เห็นแนวโน้มของกระแสเงินทุนที่จะไหลกลับเข้ามามากเช่นเดียวกัน ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้มีการเคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้คาดว่าหลังจากที่ดัชนีสามารถกลับมายืนเหนือ 1,600 จุดได้ ส่งผลให้มุมมองเป็นบวกมากขึ้น โดยเฉพาะในทางเทคนิคที่มีสัญญาณการฟื้นตัวต่อเนื่องได้ แต่ยังคงต้องติดตามปัจจัยจากต่างประเทศช่วงปลายสัปดาห์นี้ เช่น รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ว่าจะมีมุมมองต่อเศราฐกิจสหรัฐฯและการขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯเป็นอย่างไร และมาตรการตอบโต้ทางการค้าของจีน โดยการการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยได้ด้วย
พร้อมให้แนวต้าน 1,630-1,660 จุด แนวรับ 1,616 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 4,373.15 ล้านบาท ปิดที่ 74.25 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,801.65 ล้านบาท ปิดที่ 47.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 2,008.21 ล้านบาท ปิดที่ 418.00 บาท ลดลง 6.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,916.87 ล้านบาท ปิดที่ 134.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,906.31 ล้านบาท ปิดที่ 75.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท