ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,601.42 จุด ลดลง 27.78 จุด (-1.71%) มูลค่าการซื้อขาย 55,699.12 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,628.79 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,596.55 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 278 หลักทรัพย์ ลดลง 1,052 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 312 หลักทรัพย์
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้อ่อนแอกว่าที่คิดไว้ และอ่อนแอกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่จะติดลบแต่ก็ไม่มากเท่ากับตลาดบ้านเรา และตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็อยู่ในแดนบวกกัน ทั้งนี้มองว่าเป็นการขายลดความเสี่ยงหลังดัชนีฯรีบาวด์ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เพื่อรอดูการเก็บภาษีสินค้านำเข้าทั้งฝั่งจีน และสหรัฐฯ ที่เป็นปัจจัยกดดันตลาดฯ
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบก็มีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐ ทวีตข้อความออกมาว่า จะให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ลดราคาน้ำมัน ซึ่งก็หมายความว่ากลุ่มพลังงานต้องเผชิญกับแรงขาย และในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาหุ้นในกลุ่มน้ำมันไม่ค่อยจะปรับขึ้นมากนัก
"ตลาดหุ้นไทยจัดอยู่ในกลุ่ม TIP ซึ่งวันนี้อ่อนแอกว่าภูมิภาค จากเงินทุนยังไหลออก โดยบ้านเราเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติก็ยังขาย ทั้งที่บ้านเราไม่มีประเด็นลบอะไร"
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (6 ก.ค.) นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะผันผวน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าของจีน และสหรัฐฯด้วยว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ โดยทางจีนก็ได้เปิดทางให้สหรัฐฯด้วยการที่จะไม่เริ่มจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าก่อน ซึ่งก็ต้องรอดูว่าสหรัฐฯจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนหรือไม่
พร้อมให้แนวรับ 1,600-1,585 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630-1,640 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BEAUTY มูลค่าการซื้อขาย 11,511.25 ล้านบาท ปิดที่ 7.20 บาท ลดลง 1.90 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,634.72 ล้านบาท ปิดที่ 46.25 บาท ลดลง 1.50 บาท
IVL มูลค่าการซื้อขาย 2,349.81 ล้านบาท ปิดที่ 53.75 บาท ลดลง 3.00 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,616.59 ล้านบาท ปิดที่ 410.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,605.61 ล้านบาท ปิดที่ 66.50 บาท ลดลง 0.50 บาท