(เพิ่มเติม) PTT ขับเคลื่อนเชิงรุกปรับรูปแบบองค์กรสู่"ดิจิตอลเวิร์คเพลส"ตอบรับไทยแลนด์ 4.0

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 12, 2018 14:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม บมจ. ปตท. (PTT) เปิดงาน Power of Digital Transformation โดยระบุว่า ในยุคดิจิตอลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินธุรกิจ จำเป็นต้องปรับวัฒนธรรมองค์กรให้ก้าวสู่ดิจิตอล (Digital Culture) ด้วยการปรับรูปแบบการทำงานขององค์กรให้ก้าวไปในทิศทางที่สอดคล้องกับสถานการณ์ความเป็นโลกาภิวัตน์ในโลกยุคปัจจุบัน ซึ่งจะต้องมีทั้งความเชื่อมโยง สะดวกคล่องตัว ไม่จำกัดเวลาและสถานที่ รวมทั้งตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างรวดเร็ว และสอดรับกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของภาครัฐที่มุ่งปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี

ปตท.กำลังก้าวสู่ปีที่ 40 โดยปรับรูปแบบการทำงานให้มีความทันสมัย ตอบสนองต่อกระแสธุรกิจยุคใหม่ยิ่งขึ้น ด้วยการนำแนวคิดและเทคโนโลยีดิจิตอลเข้ามาพัฒนาองค์กร (Digital Transformation) ผ่าน Internet of Things หรือ IoT เมื่ออุปกรณ์เชื่อมโยง ทำให้สามารถสั่งการควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต จะทำให้ ปตท.เป็นองค์กรต้นแบบแห่งนวัตกรรมผ่านการสื่อสารภายในองค์กรที่เป็นดิจิตอล ส่งผลให้พนักงานสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ วัดผลได้อย่างชัดเจน ตอบโจทย์การทำงานของคนรุ่นใหม่ นอกจากนี้ ยังช่วยให้เกิดการทำงานร่วมกัน เพิ่มความสัมพันธ์ของพนักงานในองค์กรได้อย่างไร้พรมแดน โดยนำเครื่องมือและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการพัฒนาองค์กรไปสู่องค์กรแห่งความก้าวล้ำด้านดิจิตอล อาทิ OneDrive, PowerBI, KOOLS Keeper, SkillLane, Chatbot แจ้งซ่อม รวมถึง Workplace by Facebook ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันรูปแบบใหม่ที่เชื่อมต่อพนักงานทุกคนในองค์กร ผ่านการสนทนาด้วยเสียงและวิดีโอคอล สนทนาเป็นกลุ่ม และการฟีดข่าวถึงกัน

"ปตท. พร้อมขับเคลื่อนเชิงรุกสู่ยุคดิจิตอล เดินหน้าสู่การเป็นองค์กรต้นแบบที่ส่งเสริมการทำงานแบบดิจิตอลเวิร์คเพลสอย่างเต็มรูปแบบ เป็นทางเลือกในการทำงานรูปแบบใหม่ที่อาศัยเครื่องมือทางดิจิตอลในการเชื่อมต่อสื่อสารและทำงานร่วมกันได้สะดวกขึ้น รับรู้สถานะการทำงานได้แบบเรียลไทม์ สามารถเชื่อมต่อกับเพื่อนร่วมงานและข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลาจากทุกอุปกรณ์ นับเป็นการเพิ่มขีดความสามารถการทำงานขององค์กรในยุคปัจจุบันให้มีความทันสมัย สอดคล้องกับการแข่งขันในภาคธุรกิจในอนาคตได้เป็นอย่างดี ตอกย้ำการเป็น PTT Digital Culture หรือวัฒนธรรมแห่งความเป็นดิจิตอลอย่างแท้จริง" นายชาญศิลป์ กล่าว

นายชาญศิลป์ กล่าวว่า ปตท.ให้ความสำคัญเรื่องดิจิทัล เพื่อหาเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาพัฒนาและต่อยอดธุรกิจ ซึ่งจะเห็นรูปธรรมมากขึ้นในธุรกิจของ ปตท.ทั้งธุรกิจค้าปลีก การผลิต เพื่อทำให้เกิดการลดต้นทุน และความพึงพอใจของลูกค้ามากขึ้น โดยการดำเนินการด้านนี้จำเป็นจะต้องมีความร่วมมือกับพันธมิตรด้วย ส่วนเม็ดเงินลงทุนจะเป็นเท่าใดนั้นจะต้องไปหารือกับคณะกรรมการปตท.ในช่วงปลายปีนี้อีกครั้ง แม้บางโครงการจะอยู่ในแผนงานแต่ก็ยังไม่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการในขณะนี้

"บอร์ดให้ความสำคัญในเรื่องการทำสิ่งใหม่ นวัตกรรมและดิจิทัล กรรมการบริษัทให้ความสำคัญและเห็นว่าสิ่งนี้จะต้องวางต่อไปในอนาคต ให้มีความมั่นคงแข็งแรง ทำให้เรามีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น ลูกค้ามีความพึงพอใจมากขึ้น ตอนนี้ยังไม่ได้กำหนดงบลงทุนที่ชัดเจน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเปอร์เซ็นต์ของกำไร ยังไม่ได้กำหนดว่าเท่าไหร่ แต่ไม่ได้สูงมาก การจะลงทุนพวกนี้ต้องมองและต้องเลือก ต้องพยายามทดสอบ ทดลอง แต่ถ้าเป็นเรื่องการวางโครงสร้างพื้นฐานอันนี้ต้องมานั่งดูว่าจะเป็นเรื่องอะไร อาจจะต้องลงทุนระดับหนึ่ง พวกนี้คงจะต้องเริ่มลงทุนได้ในปีหน้า ซึ่งงบก็จะถูกจัดสรรในแผน 5 ปี ที่จะเข้าบอร์ดประมาณเดือนพฤศจิกายน หรือธันวาคมนี้"นายชาญศิลป์ กล่าว

นายชาญศิลป์ กล่าวว่า ในช่วงเดือนส.ค.นี้ตนจะแสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมการ ก่อนจะเข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของปตท.ในวันที่ 31 ส.ค.นี้ หลังจากนั้นก็จะมีการแถลงแผนกลยุทธ์ของปตท.ในอนาคตต่อไป รวมถึงจะแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับความร่วมมือตามบันทึกความเข้าใจเบื้องต้น (MOU) กับหลายหน่วยงานก่อนหน้านี้ทั้งในส่วนของความร่วมมือกับ บมจ.กสท โทรคมนาคม (CAT) ในการพัฒนาธุรกิจ S-Curve และนวัตกรรมดิจิทัล ,การดำเนินงานในพื้นที่เขตนวัตกรรมในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) ในพื้นที่วังจันทร์วัลเล่ย์ จ.ระยอง ,ความร่วมมือกับธนาคารต่าง ๆ เป็นต้น

ส่วนเรื่องความคืบหน้าของการเข้าซื้อซองประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินนั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาและเจรจากับพันธมิตรหลายราย ซึ่งยังไม่มีข้อสรุป โดยจะมีการศึกษาว่ากลุ่ม ปตท.สมควรจะลงทุนหรือไม่ หากมีการลงทุนจะลงทุนร่วมกับพันธมิตรรายใด

ทั้งนี้ คณะกรรมการเห็นว่าเป็นโอกาสที่จะได้พิจารณาโครงการลงทุนของประเทศ แต่ก็ต้องพิจารณาด้วยว่าจะสามารถ synergy กับธุรกิจของปตท.ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้หรือไม่ หลังจากนั้นจะเสนอคณะกรรมการเพื่อพิจารณาต่อไป โดยโครงการดังกล่าวมีกำหนดให้ยื่นเอกสารเสนอราคาในวันที่ 12 พ.ย.61


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ