ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,640.93 จุด เพิ่มขึ้น 4.30 จุด (+0.26%) มูลค่าการซื้อขาย 46,976.00 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,646.12 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,633.53 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 713 หลักทรัพย์ ลดลง 469 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 475 หลักทรัพย์
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวไม่มาก โดยราคาน้ำมันที่ร่วงแรงทำให้ตลาดบ้านเราโดนหุ้นในกลุ่มน้ำมันถ่วงตลาดฯอยู่ จากหุ้น PTT และ PTTEP ที่ปรับตัวลง และยังได้รับแรงถ่วงจากปัจจัยต่างประเทศ ในเรื่องสงครามการค้าที่ยังแก้ไม่ตกและไม่รู้จบได้เมื่อใด
ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกราว 0.6% โดยช่วงนี้คงจะต้องจับตาความเคลื่อนไหวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเท่าที่ดูเงินดอลลาร์สหรัฐฯได้แข็งค่าขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว แต่จะต้องรอดูว่าเมื่อถึงจะถึงจุดพีค ซึ่งอาจผลมีต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯในปีหน้า
ส่วนบ้านเราให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์งวดไตรมาส 2/61 ซึ่งมองว่ากำไรจะมีการเติบโตได้บ้าง จะมีเพียง 2-3 แบงก์ที่อาจจะมีการตั้งสำรองฯสูงบ้าง ส่วนกลุ่มปิโตรเคมี ผลประกอบการก็ยังดี แม้ว่าสเปรดปิโตรเคมีจะอ่อนลงบ้างก็ตาม
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ค.) นายชัยพร กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยคงจะซิกแซกขึ้น แต่ Upside ไม่มากในระยะสั้น โดยตลาดฯเข้าเขต Oversold มากแล้ว และเริ่มเห็นการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งอาจะทำให้มีการเก็งกำไรในตลาดเอเชียได้บ้าง
พร้อมให้แนวรับ 1,624 จุด ส่วนแนวต้าน 1,664 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,615.64 ล้านบาท ปิดที่ 48.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,581.17 ล้านบาท ปิดที่ 76.50 บาท ลดลง 2.25 บาท
BEAUTY มูลค่าการซื้อขาย 2,272.12 ล้านบาท ปิดที่ 8.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,930.57 ล้านบาท ปิดที่ 134.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,799.06 ล้านบาท ปิดที่ 77.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง