UAC-W2 ปิดเทรดวันแรกที่ 0.97 บาท มูลค่าซื้อขาย 47.44 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 1.05 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 1.32 บาท และราคาลงต่ำสุด 0.89 บาท
ขณะที่หุ้น UAC ปิดที่ 4.82 บาท ลดลง 0.06 บาท (-1.23%) มูลค่าซื้อขาย 889,720 บาท โดยเปิดตลาดที่ 4.90 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 4.96 บาท และราคาลงต่ำสุด 4.82 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.ยูเอซี โกลบอล (UAC) ครั้งที่ 2 ใช้ชื่อย่อว่า UAC-W2 ที่ 0.52 บาท (BSM) อิงราคาหุ้นแม่ที่ 4.88 บาท และความผันผวนของหุ้นที่ 27% คิดเป็น All-in Premium ที่ +24% ด้านผู้ได้รับ UAC-W2 มีต้นทุนจากการขึ้นเครื่องหมาย XW 0.80 บาท (ราคาหุ้นลดลง 0.20 บาทแต่มีผลจากเงินปันผล 0.12 บาท ในวันที่ 6 มี.ค. และ XW ในอัตราส่วน 10 : 1)
ด้วยความผันผวนของหุ้นแม่ที่ค่อนข้างต่ำ และผลกระทบจากเงินปันผลราวปีละ 2% เป็นปัจจัยที่กดดันราคาของ UAC-W2 อีกทั้ง UAC ตัวแม่ยังมีสภาพคล่องในการซื้อขายที่ค่อนข้างต่ำ (มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยย้อนหลัง 3 เดือน/วัน ไม่เกิน 2 ล้านบาท) ทำให้มองว่า UAC-W2 ขาดความน่าสนใจในการเก็งกำไร
พร้อมให้กรอบมูลค่าของ UAC-W2 ไว้ที่ 0.43-0.60 บาท เมื่อราคาหุ้น UAC เคลื่อนไหวในกรอบ 4.68-5.08 บาท โดยมี Volatility 27% per year
UAC ทำธุรกิจนำเข้า ขาย สารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมัน โรงกลั่น และปิโตรเคมี โดยกลุ่มลูกค้าได้แก่ กลุ่มน้ำมัน ก๊าซ โรงกลั่นน้ำมันและอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ผู้ผลิตน้ำมันหล่อลื่น โรงงานอุตสาหกรรมโพลิเมอร์และพลาสติก โรงงานอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ โรงไฟฟ้าและสาธารณูปโภค รวมถึงการลงทุนในอุตสาหกรรมด้านพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก และระบบสาธารณูปโภค
UAC-W2 จำนวนที่ออก 66.7 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 10 หุ้นเดิม : 1 หลักทรัพย์แปลงสภาพ อัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 5.55 บาท, อายุ 2 ปี โดยสามารถใช้สิทธิได้ทุกวันทำการสุดท้ายของทุกเดือน มี.ค., มิ.ย., ก.ย. และ ธ.ค. (โดยใช้สิทธิได้ครั้งแรกในวันที่ 28 ก.ย. 2561 และครั้งสุดท้ายในวันหมดอายุวันที่ 30 มิ.ย. 2563)