(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ฟื้นตัวหลังปรับฐานแล้วไม่หลุด 1,618 จุด ส่งบรรยากาศเก็งกำไรเป็นบวก

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 18, 2018 09:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นได้ หลังจากที่เมื่อวานนี้ปรับฐานแล้วดัชนีฯไม่หลุดแนว 1,618 จุด ทำให้บรรยากาศการเก็งกำไรเป็นบวก นอกจากนี้ การเลื่อนใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS9 ออกไปอีก 1 ปี ก็เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มแบงก์ โดยเฉพาะ KTB ที่มีการตั้งสำรองฯต่ำ ซึ่งเป็นจิตวิทยาที่จะมารองรับการประกาศผลประกอบการกลุ่มแบงก์ด้วยที่คาดว่าจะไม่ดีนัก โดยปัจจัย IFRS9 อาจจะมาช่วยหนุนให้กลุ่มแบงก์ฟื้นได้ และอาจมีการเล่นเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็กด้วย

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นราว 0.2-0.5% โดยปัจจัยนอกประเทศไม่ได้มีประเด็นใหม่เข้ามา และเมื่อคืนที่ผ่านมาถ้อยแถลงประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก็ไม่ได้มีประเด็นมากนัก

ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราช่วงนี้คงจะโฟกัสที่การทยอยประกาศผลประกอบการมากขึ้น นอกจากกลุ่มแบงก์แล้ว ยังมีหุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็กที่สามารถเลือกเป็นรายตัวเก็งกำไรได้ อย่างหุ้น IRPC, GUNKUL, MAJOR, AEONTS เป็นต้น

"มองเดือนกรกฏาคมสามารถเล่นเก็งกำไรได้ บรรยากาศการซื้อขายเป็นบวก"นายกิจพณ กล่าว

พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,621-1,634 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (17 ก.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,119.89 จุด เพิ่มขึ้น 55.53 จุด (+0.22%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,809.55 จุด เพิ่มขึ้น 11.12 จุด (+0.40%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,855.12 จุด เพิ่มขึ้น 49.40 จุด (+0.63%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 220.16 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 3.65 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 170.43 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 32.44 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 15.86 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 11.64 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 3.39 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 ก.ค.61) 1,626.07 จุด ลดลง 1.62 จุด (-0.10%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 28.44 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 ก.ค.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (17 ก.ค.61) ปิดที่ 68.08 ดอลลาร์/บาร์เรล ขยับขึ้น 2 เซนต์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 ก.ค.61) ที่ 5.13 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.31 แนวโน้มอ่อนค่าหลังดอลล์แข็ง รับเฟดทยอยขึ้นดอกเบี้ยหลังเศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวต่อเนื่อง
  • กกบ.เลื่อนบังคับใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ 1 ปี จาก 1 ม.ค.2562 เป็น 1 ม.ค.2563 ส่วนธุรกิจที่มีความพร้อมให้ใช้ได้ทันที มอบ ธปท. กลต. คปภ.ทำแนวทางช่วยผู้ประกอบการ ขีดเส้นเสร็จ 1 เดือน ส.อ.ท.จี้ทุกฝ่ายเร่งประชาสัมพันธ์ จัดแผนเตรียมความพร้อมช่วยภาคธุรกิจ ด้าน PwC ชี้เลื่อน 1 ปี เหมาะสม สภาตลาดทุนยืนยันกระทบธุรกิจน้อย
  • ททท.ขึงแผนฟื้นเชื่อมั่นตลาดจีนบินตรงพบเอเยนต์ใหญ่ปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้ นำมาตรการปลอดภัยนำเสนอทัวร์ เร่งจับมือวีแชท เปิดระบบเตือนล่วงหน้าถึงมือนักท่องเที่ยว พร้อมจัดแฟมทริป ดึงเซเลบ-บล็อกเกอร์จีนครึ่งร้อยลงภูเก็ตเทศกาลกินเจ ใช้โมเดลจัดการช่วงระเบิดราชประสงค์ฟื้นฟูตลาด เน้นดูแลฟื้นฟูขวัญ นำคนดังสร้างความมั่นใจ
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตือนว่าสงครามการค้าซึ่งมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นหลังสหรัฐตั้งกำแพงภาษีกับสินค้าจีน และตอบโต้กลับประเทศคู่ค้า มีความเสี่ยงทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว
  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร เรื่องการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) จากผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (อี-บิซิเนส) ในต่างประเทศ ซึ่งจะมีผลให้สามารถดำเนินการจัดเก็บแวตในอัตรา 7% จากผู้ประกอบการจากต่างประเทศ เป็นแนวทางที่ไทยจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการไทยกับต่างชาติ
  • ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยประจำเดือน มิ.ย. 2561 ว่า ค่าดัชนีอยู่ที่ 48.4 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่อยู่ 47.7 ถือเป็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น โดยภูมิภาคที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกผลไม้และการท่องเที่ยวมีการฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เห็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจไทยเริ่มมีการฟื้นและกระจายตัวดีขึ้น โดยจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนในไตรมาส 4 ของปีนี้
  • กรมธุรกิจพลังงานเตรียมเสนอ "กบง." เดือน สิงหาคม ปรับสำรองน้ำมันทางกฎหมายโดยลดสำรองน้ำมันดิบโรงกลั่นจาก 6% เป็น 5% แต่เพิ่มสำรองน้ำมันสำเร็จรูปอีก 1% เป็น 2% หลังสถานการตลาดน้ำมันโลกเปลี่ยนแปลงแต่ภาพรวมสำรองตามกฎหมายยังคง 7% เพื่อความมั่นคง

*หุ้นเด่นวันนี้

  • TISCO (กรุงศรี) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 90 บาท ราคาหุ้นร่วงแรงถึง 15% หลังประกาศงบกังวล NPL เพิ่มขึ้น มองตลาดวิตกมากเกินไป ราคาปัจจุบันเริ่มมี Upside จากราคาเป้าหมาย และยังให้ Dividend yield ที่น่าสนใจประมาณ 8% จึงเป็นโอกาสซื้อ
  • BBL (ไอร่า) "ทยอยสะสม"ในช่วงที่ราคาปรับลดลง เป้า 229 บาท คาด Q2/61 กำไรสุทธิ 8,697 ล้านบาท ลดลง 4.4%QoQ แต่เพิ่มขึ้น 7%YoY หลักๆ จากการตั้งสำรองหนี้เสียประมาณ 5,500 ล้านบาท ลดลงจาก 7,300 ล้านบาท เมื่อ Q1/61 โดยเลือก BBL เป็น Top Pick ในกลุ่มธนาคาร ความน่าสนใจจาก 1.เข้าสู่วัฏจักรการลงทุนใหม่ในช่วง H2/61 ซึ่ง BBL มีความได้เปรียบเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่อื่นๆ จากต้นทุนที่ต่ำ ขณะที่สภาพคล่องสูงกว่า 2.อัตราดอกเบี้ย เริ่มเข้าสู่ขาขึ้น คาดส่งผลดีต่อ NIM ของธนาคารขนาดใหญ่ 3.คาดได้รับผลกระทบน้อยจากการทำสงครามปรับลดค่าธรรมเนียม 4. ความร่วมมือกับ AIA คาดช่วยหนุน Non-NII ของ BBL ในช่วง H2/61 ขณะที่คาดธนาคารอื่น คาด Non-NII ได้รับผลกระทบจากรายได้ค่าธรรมเนียม และรายได้จากธุรกิจประกัน ที่ปรับลดลง 5. NPL Formation เริ่มทรงตัวทำให้คาดตั้งสำรองหนี้ลดลงจากปีที่ผ่านมา
  • BDMS (เคทีบี) "ซื้อ"เป้า 28 บาท แนวโน้มหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลยังคงดี จากการเป็นหุ้นที่มี growth เฉพาะตัว แนวโน้ม Q2/61 รายได้ในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.61 ยังคงมีการเติบโตที่ดี ด้าน รพ.ในเครือเหลือ EBITDA ติดลบแค่ 4 แห่ง พร้อมประมาณการกำไรสุทธิปี 2561 ที่ 9,951 ล้านบาท ลดลง 3% YoY แต่กำไรปกติโต 24% จากการปรับอัตรากำไรขั้นต้นขึ้น
  • CPALL (ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี) "ซื้อ"เป้า 91 บาท คาดจะมี SSSG +3.5% และกำไรสุทธิ 5.33 พันล้านบาท (+14.6%, -1.7% qoq) ใน Q2/61 โดยเชื่อมั่นในแนวโน้มระยะยาวของ CPALL ด้วยรูปแบบธุรกิจและความสามารถทางการแข่งขันที่โดดเด่น แต่นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันต่อราคาหุ้น CPALL จากการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นกู้อนุพันธ์ของ CPF

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ